posttoday

โอเปกดันน้ำมันพุ่ง จับมือลดการผลิตกระตุ้นราคารับเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

14 กุมภาพันธ์ 2562

ราคาน้ำมันส่งสัญญาณขาขึ้น หลังกลุ่มโอเปกลดกำลังการผลิต รับเศรษฐกิจโลกทรงตัว ดันราคาหุ้นพลังงานเขียวยกแผง ด้าน สผ.ยันก๊าซไม่กระทบ

ราคาน้ำมันส่งสัญญาณขาขึ้น หลังกลุ่มโอเปกลดกำลังการผลิต รับเศรษฐกิจโลกทรงตัว ดันราคาหุ้นพลังงานเขียวยกแผง ด้าน สผ.ยันก๊าซไม่กระทบ

รอยเตอร์สรายงานว่า กลุ่มประเทศ ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ (โอเปก) ได้เปิดเผยในรายงานประจำเดือน ม.ค.ว่า การผลิตน้ำมันดิบของโอเปกลดลง 7.97 แสน บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 30.81 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน ม.ค. หรือลดลงมากกว่าที่คาดไว้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนลดกำลังการผลิตเพื่อกระตุ้นราคาน้ำมันโลก

การลดการผลิตลงทำให้ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสปรับขึ้น 1.1% ไปอยู่ที่ 55.66 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนต์พุ่งขึ้น 1% ไปอยู่ที่ 63.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ระหว่างการซื้อขาย เมื่อวานนี้

โอเปกยังได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปีนี้ที่ 30.59 ล้านบาร์เรล/วัน ลดลง 2.4 แสนล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากสหรัฐเพิ่มกำลังการผลิต และเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง ดังนั้นหากไม่ลดกำลังการผลิตจะเห็นปริมาณน้ำมันล้นตลาดราว 2 แสนบาร์เรล/วัน ในปีนี้

ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศที่ลดการผลิตน้ำมันลงมากที่สุดที่ 3.5 แสนบาร์เรล/วัน และมีเป้าหมายจะลดการผลิตมากกว่า 5 แสนบาร์เรล/วัน ให้ลงมาอยู่ที่ระดับ 9.8 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน มี.ค. ขณะที่ตลาดคาดว่ากำลังการผลิตที่น่าจะลดลงอีกจากอิหร่าน ลิเบีย และเวเนซุเอลา อาจยิ่งทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นอีกตามมา

นางชนมาศ ศาสนนันทน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) เปิดเผยว่า การที่กลุ่มโอเปกลดกำลังการผลิตลง อีกทั้งการคว่ำบาตรของอิหร่านและเวเนซุเอลา มีผลให้ราคาน้ำมันปรับขึ้น ราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 60-70 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปกติราคาก๊าซจะปรับขึ้นตามราคาน้ำมันประมาณ 30-40% และใช้เวลาในการปรับประมาณ 6 เดือน หรือ 1 ปี ดังนั้นแม้ราคาน้ำมันขึ้น แต่ไม่มีผลต่อราคาก๊าซทันที ปัจจุบันบริษัทมีปริมาณการขายก๊าซ 70% และน้ำมัน 30%

ด้านบริษัท ไออาร์พีซี (IRPC) มอง แนวโน้มราคาน้ำมันดิบปีนี้คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากสิ้นปี 2561 และเคลื่อนไหวในกรอบ 60-68 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการที่นักลงทุนคลายความกังวลต่อสงครามการค้าสหรัฐและจีน ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันดิบคาดการณ์จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.1-1.3 ล้านบาร์เรล/วัน ส่วนธุรกิจปิโตรเคมีคาดว่าปี 2562 จะปรับตัวในทิศทางดีขึ้น