posttoday

หวั่นสงครามการค้าทุบผลไม้ไทย หลังกำลังซื้อคนจีนหด

03 กุมภาพันธ์ 2562

หวั่นล้งจีนทิ้งสัญญาผลไม้ทุเรียน มังคุด หลังกระทบสงครามการค้า ขณะที่ สศก.ระบุยังไม่พบสัญญาณ

หวั่นล้งจีนทิ้งสัญญาผลไม้ทุเรียน มังคุด หลังกระทบสงครามการค้า ขณะที่ สศก.ระบุยังไม่พบสัญญาณ

แหล่งข่าวจากกลุ่มผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาเอกชนจับตาสถานการณ์การส่งออกสินค้าผลไม้ไปจีนว่าจะมีผลกระทบจากสงครามการค้าหรือไม่ เนื่องจากกำลังซื้อผู้บริโภค โดยเฉพาะจีนลดลงอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นพบว่าสินค้ามังคุดปีนี้เริ่มมีปัญหาตลาดส่งออก ทำให้ราคาหน้าสวนลดลง โดยปี 2560 ราคาหน้าสวนที่ จ.นครศรีธรรมราช อยู่ที่กิโลกรัมละ 80-120 บาท แต่ปี 2561 ลดลงเหลือประมาณกิโลกรัมละ 60 บาท

“สิ่งที่กังวลมากที่สุด คือทุเรียน เนื่องจากที่ผ่านมาล้งจีนมาทำสัญญาซื้อขายกับไทยจำนวนมาก หากมีปัญหาเกรงว่าจะทิ้งสัญญาซื้อขาย ตลาดทุเรียนจะกระทบมาก” แหล่งข่าวระบุ

ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) รายงานว่า มูลค่าการส่งออกทุเรียนจากไทยไปสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2559 มีมูลค่า 10,217 ล้านบาท ปี 2560 รวม 8,870 ล้านบาท ปี 2561 รวม 15,899 ล้านบาท สำหรับการส่งออกมังคุดไปจีน ปี 2559 มูลค่ารวม 1,627 ล้านบาท ปี 2560 มูลค่า 2,013 ล้านบาท ปี 2561 มูลค่า 3,360 ล้านบาท คาดว่าปี 2562 จะมีทุเรียนออกสู่ตลาดประมาณ 6-7 แสนตัน เพิ่มขึ้น 5.5% และมังคุดประมาณ 1.5-1.7 แสนตัน เพิ่มขึ้น 0.82%

นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการ สศก. เปิดเผยว่า สศก.ได้ติดตามผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน กรณีการซื้อขายสินค้าผลไม้ไทยที่จีนได้เข้ามาติดต่อซื้อขายผ่านเอเย่นต์ในไทยหรือล้งจีน ยังไม่พบสัญญาณที่น่าเป็นห่วง ทั้งทุเรียน มังคุด ซึ่งเป็นสินค้าที่ชาวจีนนิยมบริโภคและเข้ามาจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย โดยผู้ประกอบการของไทยแจ้งว่ายังไม่มีการยกเลิกสัญญาการซื้อขาย

“ได้สอบถามผู้ประกอบการล้งผลไม้โดยตรง โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งทางผู้ค้าจีนยืนยันว่า แม้เศรษฐกิจในประเทศอาจจะมีปัญหาเรื่องเทรดวอร์ แต่การบริโภคผลไม้ยังไม่มีท่าทีที่จะยกเลิกคำสั่งซื้อ โดยทางล้งระบุว่าเขาไม่เกี่ยงเรื่องราคา แต่ขอให้ได้ทุเรียนที่มีคุณภาพตามที่คนจีนต้องการ ดังนั้นในเรื่องทุเรียนเบื้องต้น สศก.ยังเชื่อว่าไม่น่ากังวล ในขณะที่มังคุดยังไม่มีท่าทีใดๆ เช่นเดียวกัน” นางอัญชนา กล่าว