posttoday

จีพีเอสซีลงทุนโรงไฟฟ้าTOP

23 มกราคม 2562

บอร์ด โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ อนุมัติทุ่ม 2.4 หมื่นล้าน ลงทุนหน่วยผลิตไฟฟ้า 250 เมกะวัตต์ ในโครงการพลังงานสะอาดของไทยออยล์

บอร์ด โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ อนุมัติทุ่ม 2.4 หมื่นล้าน ลงทุนหน่วยผลิตไฟฟ้า 250 เมกะวัตต์ ในโครงการพลังงานสะอาดของไทยออยล์

นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เปิดเผยว่า คณะกรรมการมีมติเห็นชอบแผนการลงทุนในหน่วยผลิตไฟฟ้า (Energy Recovery Unit : ERU) ซึ่งมีกำลังผลิตไฟฟ้า 250 เมกะวัตต์ ไอน้ำ 175 ตัน/ชั่วโมง ในโครงการพลังงานสะอาด (CFP) ของบริษัท ไทยออยล์ (TOP) มูลค่าลงทุน 757 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท

"โครงการ CFP ของไทยออยล์มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน และในโครงการ ERU เป็นหน่วยผลิตไฟฟ้าและไอน้ำการเข้าลงทุนโครงการในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มโอกาสด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มคุณค่าผลิตภัณฑ์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และขยายกำลังการกลั่นน้ำมันเป็นระดับ 4 แสนบาร์เรล เป็นการสร้างการเติบโตในธุรกิจจากเชื้อเพลิงในรูปแบบที่แตกต่างออกไป" นายชวลิต กล่าว

ทั้งนี้ การลงทุนจะดำเนินการผ่านบริษัทย่อยที่จีพีเอสซีถือหุ้น 100% จะเริ่มก่อสร้างหลังมีการลงนามในสัญญา มีระยะเวลา 58 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 3 ของปี 2566 และแผนลงทุนครั้งนี้เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในการเติบโตไปพร้อมกับกลุ่ม ปตท. สร้างโอกาสการต่อยอดธุรกิจการผลิตไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงแตกต่างไปจากเดิม เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานในอนาคต

นอกจากนี้ การเข้าลงทุนครั้งนี้จะทำให้ GPSC มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนรวมทั้งสิ้น 1,955 เมกะวัตต์ ไอน้ำ รวมประมาณ 1,585 ตัน/ชั่วโมง ซึ่งในปี 2562 GPSC มีแผนเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ (COD) ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ได้แก่ โรงไฟฟ้าน้ำลึก 1 ขนาดกำลังการผลิต 65 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้า ไซยะบุรี กำลังการผลิต 1,285 เมกะวัตต์ รวมทั้งโรงผลิตสาธารณูปการระยองแห่งที่ 4 กำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ ไอน้ำ 70 ตัน/ชั่วโมง และโรงผลิตสาธารณูปโภค 3 (CUP-3) ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) โรงไฟฟ้าประเภทพลังงานระบบโคเจเนอเรชั่น ขนาดกำลังการผลิต 15 เมกะวัตต์ สามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ภายในปีนี้