posttoday

รื้อทีโออาร์แหลมฉบังเฟส 3 ขยายเวลา 2-3เดือน

22 มกราคม 2562

กทท.ยอมปรับทีโออาร์แหลมฉบังเฟส 3 เอกชนขอเพิ่มสัดส่วนรายได้ 20% จ่อแก้กฎหมายร่วมทุนอีอีซี

กทท.ยอมปรับทีโออาร์แหลมฉบังเฟส 3 เอกชนขอเพิ่มสัดส่วนรายได้ 20% จ่อแก้กฎหมายร่วมทุนอีอีซี

นายมนตรี ฤกษ์จำเนียร รักษาการผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า กทท.ได้จัดการประชุม รับฟังความคิดเห็นเอกชนที่เข้าร่วมโครงการแหลมฉบังเฟส 3 ท่าเทียบเรือ F วงเงิน 8.4 หมื่นล้านบาทนั้น เอกชนได้ยื่น ข้อเสนอหลายด้านที่ต้องการให้แก้ไขเพราะบางข้อในทีโออาร์นั้นเข้มงวดเกินไป อาทิ รายได้โครงการ เงื่อนไขคุณสมบัติ ระยะเวลาการยื่นข้อเสนอไปจนถึงเรื่องการันตีความเสียหายโครงการ ซึ่งหลังจากนี้ กทท.จะสรุปข้อมูลร่วมกับฝ่ายนโยบายก่อนเดินหน้าปรับเปลี่ยนร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) ในบางส่วน แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามากน้อยแค่ไหน โดยจะยึดภาษาไทยให้น้อยลงเพราะ ที่ผ่านมาร่างโดยยึดแบบภาษาไทยเป็นหลัก ทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในหลายประเด็น ทั้งหมดนี้คาดว่าจะได้ทำการเปิดประมูลโครงการ อีกครั้งภายใน 2 เดือน เพราะการประมูลที่ผ่านมามีเอกชนเสนอเพียงรายเดียว อีกทั้งยังไม่ผ่านคุณสมบัติอีกด้วย

สำหรับข้อกังวลเรื่องการการันตีความรับผิดชอบร่วมในฐานะผู้ร่วมทุนตามสัดส่วนผู้ถือหุ้น พบว่าเอกชนแต่ละรายมีความเข้าใจไม่ตรงกัน โดยตัวแทนคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะมีการประชุมในสัปดาห์นี้เพื่อเดินหน้าแก้ไข พ.ร.บ.อีอีซี ต่อไป เมื่อแก้ไขระเบียบดังกล่าวแล้วจึงจะเปิดประมูลได้ ปัจจุบัน พ.ร.บ.ดังกล่าวระบุว่าเอกชนที่จับกลุ่มเป็นกิจการร่วมค้า (Joint Venture) จะต้องรับผิดชอบในสัดส่วนที่ เท่ากันหากเกิดความเสียหายต่อโครงการ ไม่ว่าจะถือหุ้นปริมาณเท่าใด แต่การปรับกฎหมายนั้นจะกำหนดความรับผิดชอบตามสัดส่วนการถือหุ้นในกิจการร่วมค้า

แหล่งข่าวบริษัทเอกชนที่เข้าร่วมประชุมชี้แจง เปิดเผยว่า ในการประชุมดังกล่าวนั้นเอกชนแต่ละรายมีการยื่นข้อเสนอพร้อมคำถามถึงแนวทางเปิดประมูลโครงการ ดังกล่าว โดยเฉพาะเรื่องของระยะเวลาการเปิดให้ยื่นข้อเสนอว่าจะสามารถขยายระยะออกไปเป็น 2-3 เดือนได้หรือไม่ เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นการลงทุนระดับหลักแสนล้านบาท จึงต้องใช้เวลารวบรวมข้อมูลอย่างรอบคอบ นอกจากนี้ในเรื่องของการแบ่งรายได้ให้กับภาครัฐก็เป็นอีกเรื่องที่เอกชนกังวลว่าอาจไม่คุ้มค่า จึงมีการเสนอขอปรับสัดส่วนรายได้ภาคเอกชนเพิ่มขึ้นอีก 10-20% แตกต่างกันไปตามโมเดลธุรกิจเพราะเอกชนที่เสนอมามีแผนพัฒนากิจการภายในท่าเรือที่แตกต่างกัน

สำหรับประเด็นเรื่องค่าธรรมเนียมการใช้ท่าเรือนั้น ยังคงมีข้อเสนอจากเอกชนที่ต้องการให้ กทท.กำหนดค่าธรรมเนียมพื้นที่แหลมฉบังเฟส 3 ไม่ให้สูงกว่าพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 1 และเฟส 2 สำหรับคำถามที่ว่าการเปิดประมูลครั้งใหม่เอกชนจะเข้ายื่นข้อเสนอหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่า กทท.จะสามารถผ่อนคลายเงื่อนไขต่างๆ และปรับทีโออาร์ได้มากน้อยแค่ไหน หากแก้ข้อกังวลของเอกชนได้เชื่อว่าจะมีผู้ยื่นข้อเสนอมากกว่า 1 รายแน่นอน

ภาพประกอบข่าว