พิษฝุ่นทุบเมืองกรุงเศรษฐกิจสูญหมื่นล.

หอการค้าประเมินฝุ่นละอองทุบเศรษฐกิจไทยเสียหาย 5,000-1 หมื่นล้าน ดัชนีเชื่อมั่นกระเตื้อง

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ได้ประเมินผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ สถานการณ์ดังกล่าวหากเกิดขึ้นในระยะเวลา 1 เดือน จะทำให้เศรษฐกิจไทยเสียหายประมาณ 5,000-1 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ชะลอการไปซื้อสินค้าตามแหล่งต่างๆ เช่น ตามริมถนนและบริเวณสาธารณะ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าของพ่อค้าแม่ค้า เป็นต้น

"สถานการณ์ดังกล่าวไม่ถือว่ากระทบเศรษฐกิจภาพรวมมากนัก เพราะยังไม่เห็นข่าวว่านักท่องเที่ยวต่างชาติยกเลิกการเข้ามาเที่ยวในไทย และที่สำคัญก็ยังไม่เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติตื่นตระหนก เพราะได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ต่างจากข่าวที่เสนอออกมาค่อนข้างรุนแรงจนน่ากลัว และผู้ที่ใส่หน้ากากส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนไทย" นายธนวรรธน์ กล่าว

น.ส.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยประจำเดือน ธ.ค. 2561 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 48.4 จากเดือน พ.ย. อยู่ที่ 48.1 โดยพบว่าดัชนีเชื่อมั่นภาคการท่องเที่ยวเพิ่มมากที่สุดอยู่ที่ 50.8 รองลงมาคือภาคบริการ 50.8 การค้าชายแดน 50.3 โดยดัชนีเชื่อมั่นภาคเกษตรต่ำสุดอยู่ที่ 43.3

ทั้งนี้ ปัจจัยบวกมาจากการใช้จ่ายการลงทุนภาครัฐช่วงต้นปีงบประมาณ การขยายตัวด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงปลายปี การส่งออก-นำเข้า ยังมีสัญญาณการเติบโตที่ดี การจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มาตรการช็อปช่วยชาติ รวมถึงการประกาศจัดการเลือกตั้ง

ขณะที่ปัจจัยลบ คือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ทำให้ผู้ประกอบการวิตกกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการผลิตที่อาจสูงขึ้น ราคายางและปาล์มอยู่ในระดับต่ำ การลดลงของภาคการค้าชายแดน ความผันผวนของค่าเงินบาท ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงต่อเนื่อง

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมของหอการค้าขยับขึ้น ปัจจัยสำคัญมาจากความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐและกรณีเบร็กซิตที่มีแนวโน้มผ่อนคลายลง

"กรณีการเลือกตั้งของไทยเป็นเพียงแค่ระดับวิตามินเสริมเท่านั้น อีกทั้งรัฐบาลและกรรมการการเลือกตั้งยืนยันแล้วว่าทุกอย่างจะอยู่ในกรอบเวลา" นายธนวรรธน์ กล่าว

ทั้งนี้ ปัญหาสำคัญคือราคาสินค้าเกษตร เกือบทุกตัวตกต่ำหมดในรอบ  60 ปีที่ผ่านมา แต่คาดว่าขณะนี้ทุกอย่างน่าจะเริ่มดีขึ้นจากมาตรการของรัฐและการที่ภาพลักษณ์ไทยดีขึ้น ดังนั้นเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวอยู่ที่ระดับ  4.2-5 ตามที่ได้มีการคาดการณ์ไว้เมื่อต้นปี 2562