"ยูเรเซีย"คลอดจีเอสพีฉบับใหม่ส่งออกไทยขยับ

สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย อนุมัติกฎถิ่นกำเนิดสินค้าที่ให้จีเอสพีฉบับใหม่ ส่งผลไทยได้อัตราภาษีลดลง 25% จากอัตราปกติ เริ่มใช้วันที่ 16 ม.ค. 2562

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สภาคณะกรรมาธิการแห่งสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (The Council of the Eurasian Economic Commission) ซึ่งกำกับดูแลกฎระเบียบของกลุ่มสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (EAEU) ที่ประกอบด้วยสมาชิก 5 ประเทศ ได้แก่ สหพันธรัฐรัสเซีย สาธารณรัฐเบลารุส สาธารณรัฐคาซัคสถาน สาธารณรัฐ อาร์เมเนีย และสาธารณรัฐคีร์กีซ ได้อนุมัติกฎถิ่นกำเนิดสินค้าฉบับใหม่ สำหรับการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (จีเอสพี) แก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุดและประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 16 ม.ค. 2562 เป็นต้นไป
         
ทั้งนี้ ภายใต้กฎถิ่นกำเนิดสินค้าฉบับใหม่นี้ ไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาโดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการค้าจาก EAEU ภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้ คือ อัตราภาษีขาเข้า EAEU ได้รับการลดหย่อนลง 25% จากอัตราปกติ
         
นอกจากนี้ เกณฑ์การได้ถิ่นกำเนิดสินค้าที่จะได้รับสิทธิ ต้องได้มาโดยใช้วัตถุดิบภายในประเทศที่รับสิทธิทั้งหมด หรือผ่านการแปรสภาพอย่างเพียงพอก็ต่อเมื่อมูลค่าวัตถุดิบที่ไม่ได้ถิ่นกำเนิด ต้องไม่เกิน 50% ของมูลค่าสินค้าส่งออก ณ ราคาหน้าโรงงาน โดยสามารถนำวัตถุดิบที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศกำลังพัฒนาและประเทศสมาชิก EAEU มานับรวมเป็นวัตถุดิบภายในประเทศผลิตเป็นสินค้าขั้นสุดท้ายในประเทศกำลังพัฒนา จะถือว่าได้ถิ่นกำเนิดและสามารถได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีจาก EAEU ได้
         
อย่างไรก็ตาม สินค้าส่งออกภายใต้ สิทธิจีเอสพีไป EAEU ที่สำคัญ ได้แก่ ผัก/ผลไม้ปรุงแต่ง สับปะรดกระป๋อง ข้าวที่สีบ้างแล้ว/สีทั้งหมด ปลาทูน่ากระป๋อง/แปรรูป ข้าวโพดหวาน เดกซ์ทริน/โมดิไฟด์ สตาร์ชอื่นๆ น้ำผลไม้/น้ำพืชผักอื่นๆ กุ้งแช่แข็ง ฝรั่ง มะม่วง มังคุด สด/แห้ง ซอสและของปรุงแต่งสำหรับทำซอส เป็นต้น