นายกฯนั่งหัวโต๊ะประชุมคนร.ขันนอตแผนงานรัฐวิสาหกิจ

"บิ๊กตู่" นั่งหัวโต๊ะประชุม คนร.นัดแรกของปี เกาะติดงานรัฐวิสาหกิจ แต่ละแห่ง ทั้งแผนฟื้นฟูกิจการ การหารายได้

นางปานทิพย์ ศรีพิมล ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า คนร.ได้รับทราบความคืบหน้าการฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย ซึ่งได้นำเสนอแผนการเพิ่มรายได้ในปี 2562 รวมถึงการจัดซื้อเครื่องบินใหม่และขายเครื่องบินเก่าที่ปลดระวาง
         
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้การบินไทยเร่งจำหน่ายเครื่องบินที่ปลดระวาง และสร้างความชัดเจนถึงการดำเนินการร่วมกับบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ และบริษัท สายการบินนกแอร์ รวมทั้งให้การบินไทย ดำเนินการตามแผนงานที่ได้นำเสนออย่างเคร่งครัด ตลอดจนหาทางเพิ่มอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ผ่านการขายตั๋วโดยสารทางช่องทางออนไลน์มากขึ้น
         
"บริษัท การบินไทย ได้รายงานให้ คนร.ทราบถึง Cabin Factor ล่าสุดว่า สามารถขยับขึ้นมาใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมแล้ว ส่วนแผนการจัดซื้อฝูงบินใหม่ ขณะนี้จัดทำแผนเสร็จแล้ว บริษัทจะมีการนำเสนอคณะกรรมการบริษัทเร็วๆ นี้" นางปานทิพย์ กล่าว
         
ด้านการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รายงานการดำเนินการตามแผนงาน ทั้งด้านการลงทุนต่างๆ เช่น การลงทุนในรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง การบริหารทรัพย์สิน ที่จะมีการจัดตั้งบริษัทลูก 2 บริษัท เพื่อเดินรถไฟฟ้าสายสีแดงและบริษัทบริหารทรัพย์สิน ซึ่ง คนร.ได้เร่งรัดให้ รฟท.นำเสนอแผนการจัดตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สินให้แล้วเสร็จโดยเร็วและนำเสนอให้ที่ประชุม คนร.รับทราบในการประชุมครั้งต่อไป รวมทั้งให้ รฟท.นำเสนอการพัฒนาโครงสร้างทางคู่และทางสายใหม่ทั้งหมดให้ได้ภายในปี 2562 พร้อมกับส่งเสริมให้มีการใช้น้ำมันดีเซลชนิด บี20 ในการเดินรถด้วย
         
สำหรับการฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจด้านโทรคมนาคม มีการรายงานความคืบหน้าการเตรียมควบรวมระหว่างบริษัท ทีโอที และบริษัท กสท โทรคมนาคม ซึ่ง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) รายงานว่าการดำเนินการในด้านต่างๆ เรียบร้อย แต่ยังติดขัดในประเด็นข้อพิพาทด้านทรัพย์สินของบริษัท ซึ่ง ต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อนจึงจะสามารถนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบได้
         
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทั้งบริษัท ทีโอทีและบริษัท กสท โทรคมนาคม ได้จัดทำแผนธุรกิจของบริษัทใหม่ที่จะเกิดขึ้นหลังการควบรวมกิจการแล้ว โดยเป็นแผนของปี 2562-2567 ซึ่งบริษัทจะตั้งและดำเนินการได้ภายใน 6 เดือนหลัง ครม.อนุมัติ โดยพนักงานทั้งหมดของ ทีโอที และ กสทฯ จะโอนมาเป็นพนักงานของบริษัทใหม่
         
ทั้งนี้ บริษัทใหม่จะมีทั้งหมด 5 ธุรกิจหลัก ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน โครงข่ายสื่อสารระหว่างประเทศบรอดแบนด์และโทรศัพท์พื้นฐาน โทรศัพท์เคลื่อนที่ และการให้บริการด้านดิจิทัล
         
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม คนร.เห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการ ปตท. ทดแทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่ง /ลาออก จำนวน 2 ราย ได้แก่ นาย ณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน