อีอีซีดันเศรษฐกิจพุ่ง5%เร่งสรุป5โครงการพื้นฐานในเม.ย.นี้

ลงทุนอีอีซีติดเครื่อง สกพอ. คาดดันเศรษฐกิจไทยขยายตัว 5% เร่งสรุป ผู้ลงทุน 5 โครงสร้างพื้นฐานภายในเดือน เม.ย.นี้
         
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ "เศรษฐกิจไทยกับการลงทุนในอีอีซี" ในงานสัมมนาใหญ่ประจำปี 2561 ของสมาคม ผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ว่า ปีนี้จะเห็นการลงทุน ของภาคเอกชนชัดเจนขึ้นในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งที่ผ่านมาเห็น แนวโน้มการขยายตัวของการลงทุนเอกชนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปี 2561 เพิ่มขึ้น 3.1%
         
"เศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะ New Normal ที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่ประมาณ 3% แต่ไทยทำได้มากกว่า ซึ่งปีนี้หากแผนการลงทุนอีอีซีทำได้ตามเป้า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตไม่น้อยกว่า 4% หรืออาจจะถึง 5% หากภาคเอกชนลงทุนต่อเนื่อง" นายคณิศ กล่าว

สำหรับแผนการลงทุนในอีอีซี เฟสแรก คือการออกพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนเข้ามาจะยังทำให้มีความต่อเนื่องของโครงการ ส่วนที่สองคือการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะ 5 โครงการหลัก ได้แก่ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ท่าอากาศยานอู่ตะเภา ท่าเรือแหลมฉบัง ศูนย์ซ่อมอากาศยาน และเมืองการบินภาคตะวันออก ภายในเดือน เม.ย.นี้จะสรุปผู้ลงทุนทั้งหมด และส่วนที่ 3 คือการลงทุนใน 12 อุตสาหกรรมใหม่ เชื่อว่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในไตรมาส 2 ของปีนี้

นายคณิศ กล่าวว่า โครงการประมูลท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ต้องขยายเวลาเพิ่มขึ้น หลังจากมีผู้ประมูลเพียงรายเดียว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีนักลงทุนให้ความสนใจอย่างสาธารณรัฐเช็ก รวมทั้งสิ้นเดือน ม.ค.นี้ จะเดินทางร่วมกับคณะของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ไปโรดโชว์ภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรมไฮเทค ชิ้นส่วนและเครื่องมือแพทย์ รวมทั้งมีนัดพบปะกับนักลงทุนฝรั่งเศส บริษัท แอร์บัส ที่สนใจลงทุนศูนย์ซ่อมอากาศยานในอีอีซีด้วย

"เศรษฐกิจโลกมีความอ่อนไหวมาก ขณะที่ไทยต้องรอดูหลังเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยสามารถสร้างสมดุลภายในด้วยอีอีซี และความได้เปรียบของไทยที่เป็นประธานอาเซียน สามารถป้องกันความเสี่ยงของโลกได้" นายคณิศ กล่าว