เร่งโรงกลั่นส่งแผนผลิตยูโร5

กรมธุรกิจพลังงาน เรียกโรงกลั่นหารือสั่งทุกแห่งส่งแผนเปลี่ยนมาตรฐานโรงกลั่นเป็นยูโร5 สัปดาห์หน้า

น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า เมื่อ วันที่ 16 ม.ค. 2562 ได้เชิญผู้แทนกิจการโรงกลั่นน้ำมัน 6 ราย ประกอบด้วย บริษัท ไออาร์พีซี บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล บริษัท เอสโซ่ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น และบริษัท ไทยออยล์ มาหารือถึงแนวทางการร่วมแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในระยะยาวซึ่งกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันจะมีส่วนร่วมได้

ปัจจุบันโรงกลั่นในประเทศไทย ใช้มาตรฐานยูโร4 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สูงอยู่แล้ว แต่หากใช้มาตรฐานยูโร5 เพื่อทำ ให้ได้น้ำมันมาตรฐานที่ช่วยลดการปล่อยฝุ่นละอองและมลภาวะได้อีกประมาณ 10% ซึ่งแต่ละแห่งมีแผนการปรับมาตรฐาน โรงกลั่นอยู่แล้วเพียงแต่รอการประกาศจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติก่อน โดย ธพ.ขอให้โรงกลั่นน้ำมันส่งแผนปรับปรุงมาตรฐานน้ำมันมายัง ธพ.ทันทีในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะให้เวลากับผู้ประกอบการในการปรับเปลี่ยนแผนการผลิตภายใน 5 ปี

การปรับปรุงมาตรฐานโรงกลั่นจะดำเนินการไปพร้อมกับส่วนอื่นๆ เช่น มาตรฐานเครื่องยนต์ที่จะมาใช้น้ำมันตามมาตรฐานยูโร5 เพราะหากไม่ปรับแล้ว เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันมาตรฐานใหม่อาจเผาผลาญไม่ดีไม่สามารถลดมลพิษได้ ซึ่งรายละเอียดด้านอื่นๆ นั้นกรมควบคุมมลพิษจะประกาศออกมาหลังจากมีการตั้งคณะทำงานชุดพิเศษขึ้นมาทำการศึกษาอย่างรอบด้าน

“ขณะนี้หลายด้านต้องรอแผนจากกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งกลุ่มรถยนต์เองเขาจะปรับหลังจากโรงกลั่นมีการปรับเปลี่ยนแล้วประมาณ 6 เดือน สำหรับการลงทุนเพื่อเปลี่ยนมาตรฐานโรงกลั่นนั้น สนพ.มีการประเมินว่าทั้ง 6 แห่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท แต่ขณะนี้ก็มีบางแห่งที่ลงทุนใหม่ได้ใช้มาตรฐานยูโร5 ไปแล้ว เช่น โรงกลั่นของบางจากเฟสใหม่ที่ผลิตแก๊สโซฮอล์ อี20 และโรงกลั่นของไทยออยล์ จะแล้วเสร็จในปี 2563 ก็เป็นมาตรฐานยูโร5 ส่วนต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนี้จะเข้าไปอยู่ในเนื้อน้ำมันเท่าไร สนพ.ยังอยู่ระหว่างการศึกษา” น.ส.นันธิกา กล่าว

อย่างไรก็ตาม อีกด้านที่จะช่วยลดการปล่อยฝุ่นละอองและควันได้ คือ การสนับสนุนให้ผู้ใช้รถหันมาใช้น้ำมันดีเซลบี20 ซึ่งก่อนสิ้นเดือน ม.ค.จะสามารถประกาศสเปกน้ำมันและรถที่สามารถเติมน้ำมัน บี20 ได้