posttoday

ปัจจัยเสี่ยงรุมฉุดศก.อาเซียนโตชะลอปีหน้า

11 ธันวาคม 2561

นักวิเคราะห์เตือนหลายปัจจัยเสี่ยงฉุดเศรษฐกิจ 5 ชาติอาเซียน ชะลอตัวลง 0.2% ปีหน้า

นักวิเคราะห์เตือนหลายปัจจัยเสี่ยงฉุดเศรษฐกิจ 5 ชาติอาเซียน ชะลอตัวลง 0.2% ปีหน้า

แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริลล์ ลินช์ คาดการณ์ว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เศรษฐกิจจีนชะลอตัว และทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น จะส่งผลให้การขยายตัวของเศรษฐกิจ 5 ชาติอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย ชะลอตัวลง 0.2% มาอยู่ที่ 4.8% ในปี 2562 ลดลงจากการขยายตัว 5% ในปี 2561

ทั้งนี้ จีดีพีเฉลี่ยของ 5 ชาติอาเซียน ขยายตัวเพียง 4.5% ในไตรมาส 3 ของปีนี้ ลดลงจากการขยายตัว 5.5% ของไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากสงครามการค้าส่งผลกระทบต่อการส่งออก

"ปัจจัยเสี่ยงของอาเซียนมากเกินกว่าจะพูดถึงได้" นายโมฮัมเหม็ด ฟาอิซ นากูธา นักเศรษฐศาสตร์ของแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริลล์ ลินช์ ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว โดยระบุว่า ปัจจัยเสี่ยงหลักๆ ได้แก่ ข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เศรษฐกิจจีนที่จะขยายตัวช้าลง และแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนคาดการณ์

ขณะที่ นางเซเลนา ลิง หัวหน้าฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์การคลังของธนาคารโอซีบีซีในสิงคโปร์ กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงที่อันตรายที่สุดสำหรับชาติอาเซียนคือการกีดกันทางการค้า เนื่องจากความขัดแย้งในประเด็นต่างๆ เช่น นโยบาย "เมด อิน ไชน่า 2025" ของปักกิ่ง และการแข่งขันในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงระหว่างสหรัฐและจีน จะยังไม่สิ้นสุดภายในระยะเวลาอันใกล้นี้ แม้สหรัฐและจีนจะตกลงพักรบสงครามการค้าชั่วคราว 90 วัน

ทั้งนี้ โอซีบีซีคาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจมาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย และเวียดนามในปี 2562 จะชะลอตัวเช่นกัน แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขชัดเจน

อย่างไรก็ดี นายจอห์น วูดส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนประจำเอเชีย-แปซิฟิก ของธนาคารเครดิต สวิส คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นของชาติตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นในปีหน้า เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติมีคาดว่าจะเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง หลังผลประกอบการของเอกชนสหรัฐมีแนวโน้มลดลง และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อาจอ่อนค่า ทำให้นักลงทุนมองหาตลาดใหม่ๆ สำหรับการลงทุน

นอกจากนี้ เครดิต สวิส เตือนว่า การเมืองยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของบางชาติ เช่น ไทย ซึ่งมีกำหนดเลือกตั้งในปีหน้า เช่นเดียวกับอินโดนีเซีย ซึ่งจะจัดเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือน เม.ย.ปีหน้า โดยเครดิต สวิส และแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริลล์ ลินช์ คาดการณ์ว่า นายโจโก วิโดโด จะรั้งเก้าอี้ผู้นำอินโดนีเซียอีกสมัย