posttoday

แห่ถอนเงินแน่นตู้เอทีเอ็ม ชมรัฐมาถูกทางดูแลผู้มีรายได้น้อย

11 ธันวาคม 2561

ประชาชนผู้มีรายได้น้อยถือบัตรคนจนหลายจังหวัดยังคงแห่ไปถอนเงินที่ตู้เอทีเอ็มแบงก์กรุงไทยตลอดวันต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เพื่อรับเงินสวัสดิการที่รัฐแจกให้คนละ 500 บาท

ประชาชนผู้มีรายได้น้อยถือบัตรคนจนหลายจังหวัดยังคงแห่ไปถอนเงินที่ตู้เอทีเอ็มแบงก์กรุงไทยตลอดวันต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เพื่อรับเงินสวัสดิการที่รัฐแจกให้คนละ 500 บาท

ประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหลายจังหวัด ยังคงแห่ไปถอนเงินที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยตลอดทั้งวันต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เพื่อรับเงินสวัสดิการที่รัฐแจกให้กับผู้ถือบัตรคนละ 500 บาท ให้นำไปใช้จ่ายซื้อของขวัญปีใหม่ จนตู้เอทีเอ็มบางแห่งเงินหมด

ที่ จ.ยะลา มีประชาชนทั้งไทยพุทธและมุสลิม หลั่งไหลพากันเดินทางมาต่อแถวยาวเหยียด เช่นเดียวกับ จ.นราธิวาส และสตูล ผู้ที่เข้าแถวกดเงินต่างบอกดีใจเหมือนได้ของขวัญปีใหม่ ไม่แตกต่างกับชาว จ.จันทบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ขอนแก่น ที่แน่นทุกตู้เอทีเอ็ม

สมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า จ.ขอนแก่น มีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั้งหมด 3.73 แสนคน ทำให้ในช่วง 3 วันที่ผ่านมามีประชาชนนับแสนคนได้มาถอนเงินแล้ว

จันเพ็ญ ภูเด่นผา อยู่บ้านเลขที่ 672/609 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญและลดความเหลื่อมล้ำของกลุ่มประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นการจัดสวัสดิการแห่งรัฐเฉพาะกลุ่มที่มาถูกทางแล้ว อยากให้รัฐทำแบบนี้ต่อไป

ญาณี แสงศรีจันทร์ โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า กรมบัญชีกลางได้โอนเงินของขวัญปีใหม่ 500 บาท เข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ให้กับผู้ที่ถือบัตรครบทั้งหมด 11.4 ล้านคน วงเงินรวมกว่า 5,700 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 8-10 ธ.ค.นี้ ซึ่งในวันสุดท้ายจะจ่ายเงินให้กับผู้มีเลขบัตรประชาชนขึ้นต้นด้วยเลข 1 2 4 5 และ 8 โดยกรมยืนยันว่าเงินในกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์จะเก็บไว้ใช้ได้ตลอดเวลา ไม่มีการดึงเงินกลับ

ทั้งนี้ ประชาชนไม่จำเป็นต้องแย่งออกไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม หรือเร่งรีบนำออกไปใช้จ่ายจนหมด ซึ่งแตกต่างจากวงเงินสวัสดิการซื้อสินค้าธงฟ้า 200-300 บาท ซึ่งต้องใช้จ่ายให้หมดภายในเดือนนั้น ดังนั้นผู้มีสิทธิไม่จำเป็นต้องถอนเงินตอนนี้เงินของขวัญ 500 บาท ก็จะคงอยู่ในบัตรตลอดไป จนกว่าผู้มีสิทธิมีความจำเป็นต้องใช้ โดยสามาถรกดเป็นเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย หรือถอนเงินจากบัตรที่สาขาธนาคารกรุงไทยเพื่อนำไปใช้จ่ายอะไรก็ได้ หรือนำวงเงินดังกล่าวไปใช้จ่ายที่ร้านธงฟ้า รวมทั้งร้านค้าเอกชนอื่นที่รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แนะนำให้ผู้มีรายได้น้อยวางแผนการใช้จ่ายในช่วงปลายปีอย่างเหมาะสม เช่น  ซื้อสินค้าที่จำเป็นสำหรับครอบครัว หรือใช้เป็นค่าเดินทางกลับภูมิลำเนา

สำหรับค่าเดินทางไปรักษาสุขภาพผู้สูงอายุ 1,000 บาท/คน จะเริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. 2561 ค่าเช่าบ้านผู้สูงอายุ 400 บาท/คน/เดือน จ่ายตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. 2561 ส่วนค่าไฟฟ้าและค่าน้ำ ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. 2562

“ท่านนายกฯ บอกด้วยว่า รัฐบาลทำมาตลอด 4 ปี เพื่อสร้างโอกาสในระยะยาวตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ” พุทธิพงษ์ กล่าว

ธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการสาธารณะ กล่าวปาฐกถา 45 ปี 14 ตุลาฯ ว่า สังคมประชาชาติไทยเป็นเสมือนระบบฟันเฟืองขนาดใหญ่ ที่ทุกนาทีทุกชั่วโมงเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ดังนั้นเกือบ 20 ปีที่คนไทยหมกมุ่นกับปัญหาการเมือง ก็เท่ากับว่าเราได้ปล่อยให้กลไกเศรษฐกิจ สังคม ทำงานไปโดยไม่มีการปรับทิศทางให้มันเลย เราจึงพบปัญหาใหญ่มหึมาเพิ่มขึ้นมากมาย เช่น ช่องว่างคนจนคนรวยกว้างมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อยู่ในลำดับต้นๆ ของโลก คือคนรวย 1% คุมความมั่งคั่งประมาณ 50-60% ของประเทศ ขณะที่คนชั้นล่างซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่มากมีรายได้รวมกันไม่ถึง 10% ของประเทศ

ธีรยุทธ กล่าวว่า คุณภาพการศึกษาทุกระดับลดค่าลงอย่างน่าใจหาย เด็กเกิดน้อยแต่คนแก่เพิ่มมากขึ้น คอร์รัปชั่น ขยายตัวลงสู่รากหญ้า กลุ่มทุนใหญ่ก่อตัวแข็งแกร่งขึ้นจนคล้ายมีสถานะเหนือรัฐบาลและกฎหมาย ทั้งนี้ กลุ่มทุนใหญ่ไทยสามารถขยายอำนาจอิทธิพลผูกขาดทางเศรษฐกิจได้อย่างเกือบเด็ดขาด และขยายมาสู่อิทธิพลด้านอื่นๆ กำลังเป็นสโลแกนที่ว่า “เรากำลังทิ้งทุกคนที่ตามไม่ทันให้อยู่ข้างหลัง ไม่รอใครแม้แต่เพียงคนเดียว”