posttoday

ดีเดย์ขายซองประมูลอู่ตะเภา

16 พฤศจิกายน 2561

"คณิศ" ย้ำพร้อมเปิดประมูลสนามบินอู่ตะเภา พร้อมพัฒนาพื้นที่ 6 กิจกรรม ขณะที่แอร์บัสโปรยยาหอมไทยเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์

"คณิศ" ย้ำพร้อมเปิดประมูลสนามบินอู่ตะเภา พร้อมพัฒนาพื้นที่ 6 กิจกรรม  ขณะที่แอร์บัสโปรยยาหอมไทยเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) หรืออีอีซี เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 พ.ย.นี้ สำนักงาน อีอีซีจะเปิดขายซองประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาซึ่งเป็นโครงการสุดท้ายของ 1 ใน 5 โครงการหลักของอีอีซี  โดยตามกรอบเวลาโครงการนี้จะได้ผู้ชนะการประมูลและลงนามในสัญญาร่วมลงทุนในเดือน ก.พ. 2562

ทั้งนี้ จะใช้เวลาดำเนินการลงทุน 5 ปี สามารถเปิดให้บริการในปี 2566 สอดคล้องกับการเปิดใช้รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา โดยเอกชนที่ชนะการประมูลอาจจะเข้ามาในรูปของกิจการร่วมค้า (Consortium) จะต้องเป็นผู้เข้ามาพัฒนาทั้ง 6 กิจกรรมในสนามบิน ได้แก่ การให้บริการและบำรุงรักษาอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ศูนย์ธุรกิจการค้า การขนส่งสินค้าทางอากาศและโลจิสติกส์ ระยะที่ 2 การซ่อมเครื่องบิน ระยะที่ 2 ศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรการบิน ระยะที่ 2 และอุตสาหกรรมอากาศยาน

นายปิแอร์ เจฟฟรี ประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แอร์บัส กรุ๊ป กล่าวว่า แอร์บัสมองว่าไทยมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันกรุงเทพฯ เป็นฮับด้านการบินที่สำคัญ มีผู้โดยสารเดินทางผ่านมากว่า 90 ล้านคน ซึ่งเพียงพอทำให้แอร์บัสเห็นความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ขณะเดียวกันการที่รัฐบาลไทยมีนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ผลักดันประเทศไปสู่โลกดิจิทัล ซึ่งจากการได้ทำความเข้าใจระบบนิเวศทางเศรษฐกิจที่ไทยกำลังสร้างขึ้น ถือเป็นช่วงเวลาที่มีความเหมาะสมที่บริษัทจะเข้ามาทำธุรกิจในไทย

"เอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพจำนวนอากาศยานที่บินเข้าภูมิภาคนี้มีการเติบโตเฉลี่ย 5.5% มีเครื่องบินในภูมิภาคนี้ 7,000 ลำ และในปี 20 ปีข้างหน้าจะต้องจัดหาเครื่องอีก 1.6 หมื่นลำ มีศักยภาพและเป็นโอกาสของการลงทุนศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (เอ็มอาร์โอ)" นายเจฟฟรี กล่าว

นอกจากธุรกิจเอ็มอาร์โอที่ร่วมลงทุนกับบริษัท การบินไทย แล้ว แอร์บัสยังสนใจการลงทุนในการให้บริการเฮลิคอปเตอร์ส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกิจทางการแพทย์ด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับกรมการบินพลเรือน เพราะเส้นทางการบินเฮลิคอปเตอร์นี้จะต้องเป็นไปตามกฎหมายของไทย

นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า ขณะนี้การจัดทำผังเมืองรวมของ 3 จังหวัด อีอีซี ซึ่งประกอบด้วย ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา มีความคืบหน้าไปพอสมควร โดยต้นเดือน ธ.ค.นี้ คาดว่าจะเสร็จดราฟต์แรก ก่อนจะนำไปรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน โดยคาดว่าจะประกาศใช้ได้ในกลางปี 2562

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว. ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า รัฐบาลกำลังหาทางส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์บนพื้นที่ลุ่มน้ำบางปะกง ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของโครงการอีอีซี เพราะที่ผ่านมายังไม่มีใครมาถ่ายทำภาพยนตร์ในบริเวณพื้นที่นี้ ทั้งที่มีความงดงาม มีวิถีชีวิต หากผลักดันให้เกิดผลสำเร็จ จะช่วยสร้างรายได้ และช่วยฉายภาพของพื้นที่อีอีซีได้ อีกด้วย