ประมูลเช่ารถเมล์ปี'62
บอร์ด ขสมก.ไฟเขียวโครงการเช่ารถเมล์ 700 คัน รวม 7,000 ล้าน ขณะที่รถเมล์เอ็นจีวีพร้อมทดลองวิ่ง 100 คัน ด้านช.ทวีตั้งบริษัทลูกลุยธุรกิจ
บอร์ด ขสมก.ไฟเขียวโครงการเช่ารถเมล์ 700 คัน รวม 7,000 ล้าน ขณะที่รถเมล์เอ็นจีวีพร้อมทดลองวิ่ง 100 คัน ด้านช.ทวีตั้งบริษัทลูกลุยธุรกิจ
ประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดมีมติเห็นชอบเอกสารร่างขอบเขตของงานประกวดราคา (ทีโออาร์) โครงการเช่ารถโดยสารระยะ 7 ปี วงเงินรวม 7,000 ล้านบาท แบ่งเป็น เช่ารถเมล์ไฮบริด 400 คัน วงเงิน 4,800 ล้านบาท และเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 300 คัน วงเงิน 2,200 ล้านบาท
ทั้งนี้ จะเร่งนำร่างทีโออาร์ขึ้นเว็บไซต์เพื่อประชาพิจารณ์ให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นครั้งที่ 1 ก่อนนำความเห็นมาปรับแก้ไขและประชาพิจารณ์ขึ้นเว็บไซต์ครั้งที่ 2 ก่อนเริ่มขั้นตอนเปิดประมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ในปี 2562 เพื่อหาตัวเอกชนที่ชนะโครงการต่อไป โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูการจัดซื้อรถเมล์ 3,000 คัน ขณะนี้อยู่ระหว่างเข้าสู่กระทรวงคมนาคมขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนนำเสนอ ครม.เห็นชอบต่อไป
สำหรับความคืบหน้าการส่งมอบรถเมล์ใหม่ 489 คันนั้น ปัจจุบันรถเมล์เอ็นจีวีพร้อมส่งมอบแล้ว 202 คัน โดยบริษัทคู่สัญญาจะส่งมอบล็อตแรก 100 คัน ภายในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ซึ่งในวันที่ 17-18 พ.ย.จะทยอยนำรถบางส่วนมาจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) โดยประสานขอ ขบ.นำมาจดทะเบียนในวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อไม่ให้กระทบกับการบริการในวันราชการ หลังจากจดทะเบียนเสร็จจะนำรถทั้ง 100 คัน มาทดลองวิ่งในเส้นทางเดินรถของ ขสมก. เนื่องจากจอดทิ้งไว้นานหลายเดือน ทำให้ไม่แน่ใจว่าระบบจะสามารถทำงานได้ หรือไม่ส่วนรถล็อตสอง 102 คัน ต้องส่งมอบภายในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ และล็อตสุดท้าย 187 คัน ขณะนี้ยังอยู่ที่ประเทศจีน
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี หรือ CHO กล่าวว่า ขณะนี้ ได้ตั้งบริษัทแห่งใหม่ขึ้น ชื่อบริษัท อมรรัตนโกสินทร์ โดยมี ช ทวี ถือหุ้น 100% เน้นกิจการด้านรถเมล์โดยสารสาธารณะในกรุงเทพมหานครเพื่อรองรับการปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ใหม่ 269 เส้นทาง
อย่างไรก็ตาม จะเน้นไปที่การซื้อสัมปทานเส้นทางเดินรถและตัวรถเมล์เข้ามารวมกันเพื่อบริหารเองทั้งหมด นอกจากนี้ มีแผนจ้างเดินรถเมล์ในแต่ละสายอีกด้วย สำหรับแนวทางดังกล่าวเป็นการควบรวมกลุ่มผู้ประกอบการให้เข้มแข็งและแก้ปัญหาขาดทุนสะสมของผู้ประกอบการเดิม
ภาพประกอบข่าว