posttoday

โยนกยท.เคาะจีนเช่าสวนยางย้ำต้องรอบคอบ

19 ตุลาคม 2561

"กฤษฎา" โยน กยท.รับเผือกร้อน หลังเอกชนจีนขอเช่าพื้นที่สวนยางกว่า 2 หมื่นไร่ ผลิตเวชสำอาง

"กฤษฎา" โยน กยท.รับเผือกร้อน หลังเอกชนจีนขอเช่าพื้นที่สวนยางกว่า 2 หมื่นไร่ ผลิตเวชสำอาง

นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือจากบริษัท เซี่ยงไฮ้ ไทยรับเบอร์ ซึ่งระบุว่า จะขอเช่าที่สวนยางพาราของการยาง แห่งประเทศไทย (กยท.) กว่า 2 หมื่นไร่ ระยะเวลา 30 ปี ที่ ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช รวมพื้นที่สวนยางอีก 4,400 ไร่ ของกรมป่าไม้ ที่อยู่ระหว่าง ขอคืนพื้นที่เพื่อให้เป็นป่า โดยเอกสาร ระบุว่าเพื่อเป็นต้นแบบพัฒนายั่งยืน กำหนดเช่าสถานที่และรับซื้อน้ำยางสูงกว่าราคาตลาด 20-30 บาท/กิโลกรัม

ทั้งนี้ จะนำยางมาทำเวชสำอางและเวชภัณฑ์เพื่อช่วยแก้ไขปัญหายางราคาตกต่ำ และแก้ปัญหาการขาดทุนในรอบ 6 เดือนของ กยท. กว่า 600 ล้านบาท จากการยุบรวม 3 หน่วยงาน ทำให้เพิ่มภาระเรื่องค่าเงินเดือนพนักงาน 3,900 คน รวมทั้งขอตั้งโรงผลิตไฟฟ้าขนาด 10 เมกะวัตต์ 3 โรง และโรงเลื่อย

"เรื่องเช่าพื้นที่ได้ให้แนวทางผู้ว่าการ กยท. ให้คำนึงประโยชน์เกษตรกร ยังไม่ทราบกฎหมายเปิดช่องหรือไม่ เพราะ เป็นนิติบุคคลต่างด้าวเช่า 30 ปี และ ไม่ได้อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ แต่เบื้องต้นที่หารือน่าจะเช่าไม่ได้ จึงให้ทำรายงานเสนอบอร์ด กยท.รับทราบ อย่างไรก็ตามในฐานะกำกับดูแลจะรับผิดชอบไม่ให้มีอะไรเสียหาย ดังนั้นเกษตรกรไม่ต้อง กังวล และได้ย้ำผู้ว่าฯ ไปดูเรื่องราคา ยาง ทำอย่างไรให้ราคาขยับขึ้นได้ วันนี้ชาวสวนยางยังเดือดร้อน" นายกฤษฎา กล่าว

นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาเครือข่ายยางและสถาบันเกษตรกรยางพาราแห่งประเทศไทย (สยยท.) กล่าวว่า บริษัท เซี่ยงไฮ้ไทยรับเบอร์ มีทุน จดทะเบียน 50 ล้านบาท มีโครงการ จะทำเมกะโปรเจกต์ 5 แสนล้านบาท แต่หยุดดำเนินการมาเกือบ 2 ปี ยังคิดไม่ออกว่าสวนยาง 2 หมื่นไร่ จะมาแก้ปัญหายางทั้งประเทศประมาณ 24 ล้านไร่ได้อย่างไร ถ้า กยท.ให้เช่าที่แล้วให้คนอี่นเช่าช่วงไปเพื่อกินกำไร จะมีมาตรการป้องกันอย่างไร ดังนั้นก่อนทำสัญญาควรให้ผู้เช่าร่างแผนในการแก้ปัญหาให้ช้ดเจน และเชิญทุกฝ่ายทั้งนักวิชาการมาร่วมกันพิจารณาให้รอบคอบ

นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตว่าการ เช่าพื้นที่อาจไม่ใช่เพื่อธุรกิจเวชสำอาง น่าจะมีจุดประสงค์อื่นด้วย ดังนั้นใน การทำสัญญาควรรัดกุมและพิจารณากฎหมายให้รอบคอบ