รมว.เกษตรชี้เลิกใช้สารเคมีต้องเป็นไปตามกฎหมาย

"กฤษฎา"ชี้ขั้นตอนเลิกสารเคมีอันตรายต้องว่าตามกฏหมาย ย้ำไม่ค้านหากที่สุดต้องเลิก ระบุต้องให้เวลาเกษตรกรปรับตัว 1-2ปี สู่การทำเกษตรปลอดสารเคมี

นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงกรณีองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เรียกร้องให้ยุติการใช้สารเคมี 3 ชนิดในการเกษตรว่า การยุติหรือเลิกใช้สารเคมี พาราควอต ไกลโฟเซล คอร์ไพริฟอส มีขั้นตอนภายใน1-2ปี โดยคณะกรรมการวัตถุอันตราย กระทรวงกษตรฯก็ต้องทำตามกฏหมาย โดยกระทรวงอยู่ระหว่างพิจารณาจำกัดการใช้ ตามที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมอบให้กระทรวงดำเนินการ ซึ่งจะนำรายละเอียดไปจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น

"ผมพร้อมยกเลิก หากช่องทางกฎหมายเปิด เพราะขณะนี้ยกเลิกเลย กระทรวงเกษตรฯก็จะทำผิดกฎหมาย และในเรื่องนี้ก็ต้องพิจารณาด้วยว่า เกษตรกรต้องการทำการเกษตรต้นทุนต่ำ และทำให้เกษตรกรมีปรับตัวมีช่องทางช่วยเหลือตัวเอง ได้ไปสู่การทำเกษตรไม่ใช้สารเคมี เช่นเกษตรอินทรีย์ เกษตรปลอดภัย ซึ่งมอบให้ นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรฯตั้งคณะกรมการรณรงค์เผยแพร่วิธีการเพื่อให้เกษตรกรเปรียบเทียบ ซึ่งเวลานี้ก็ต้องเข้าใจว่า เกษตรกรต้องการทำการเกษตรที่มีมีผลผลิตขายได้เร็วเขาก็เลือก ต้องเห็นใจคนยากคนจน ราคาสินค้าเกษตรไม่ดี ต้องเห็นใจด้วยถ้าทำอะไรไปไม่ดูแล จะมีปัญหาอีกกลุ่ม"รมว.เกษตรฯกล่าว

อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ลดการนำเข้าสารเคมีมา 1.3 หมื่นตัน จาก5-6 หมื่นตัน ล็อคประเภทพืชที่ใช้ กำหนดพื้นที่ใช้ ซึ่งทางส่วนหน่วยงาน ก็พยายามหาทางยับยั้งใช้สารเหล่านี้ จึงอยากเชิญชวนกลุ่มองค์กรที่ไม่ต้องการใช้สารเคมีร่วมกันช่วยรณรงค์ ให้เกษตรกรตระหนักรู้อย่างกว้างขวางและเลิกใช้สารเคมีด้วย