เล็งดึงเงินทีเอฟเอฟ ลงทุนทางด่วน3เส้น

กทพ.เล็งใช้เงินทีเอฟเอฟลงทุนทางด่วนเพิ่ม 3 สาย รองรับส่วนต่อขยาย บางขุนเทียน-พื้นที่อีอีซี วงเงิน 2.2 หมื่นล้าน

นายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ รองผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาแผนบริหารจัดการเงินกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ (ทีเอฟเอฟ) โดยจะนำเงินส่วนที่เหลือจากการลงทุนสร้างทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอก ไปลงทุนต่อในโครงการทางด่วนอีก 3 เส้นทาง รวมวงเงิน 2.2 หมื่นล้านบาท

สำหรับความคืบหน้าโครงการระดมทุนทีเอฟเอฟ วงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาทเพื่อสร้างทางด่วน 2 สาย ได้แก่ 1.ทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท นั้น อยู่ระหว่างปรับเงื่อนไขเอกสารการประกวดราคา (ทีโออาร์) คาดจะได้ตัวเอกชนพร้อมเริ่มก่อสร้างได้เร็วสุดช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ หรืออย่างช้าเริ่มก่อสร้างช่วงต้นปี 2562

2.ทางด่วนสายเหนือขั้นที่ 2 (N2) วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท ขณะนี้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เตรียมเสนอรายละเอียดในเดือน ต.ค.นี้ โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ช่วงปลายปี 2562

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงการทางด่วนที่จะใช้การระดมทุนจากทีเอฟเอฟเพิ่ม 3 เส้นทาง ได้แก่ โครงการส่วนต่อขยายวงแหวนรอบนอก-สมุทรปราการระยะทางราว 10 กิโลกรัม (กม.) วงเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท โครงการลงทุนทางด่วนเพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งมีจำนวน 2 โครงการ วงเงินรวม 1.2 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการทางด่วนส่วนต่อขยายเชื่อมท่าเรือกรุงเทพ วงเงินราว 5,000 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการขนส่งสินค้ารถบรรทุก เป็นการเชื่อมท่าเรือกรุงเทพกับทางด่วนสายบางนา-อาจณรงค์ (S1) ระยะทาง 5 กม.

2.โครงการต่อขยายทางด่วนบูรพาวิถี วงเงิน 7,000 ล้านบาท จากเดิมสิ้นสุดที่บริเวณทางเข้านิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี เพื่อเลี่ยงเส้นทางและลดความแออัดบริเวณหน้านิคมอุตสาหกรรม สำหรับเส้นทางส่วนต่อขยายนั้นจะมี ทางลงสองจุด คือ 1.เชื่อมต่อถนน บายพาส 2.เชื่อมต่อถนนเข้าเมืองชลบุรี

"สำหรับแผนดังกล่าวนั้นต้องเสนอที่ประชุมบอร์ด กทพ.พิจารณาว่ามีความเหมาะสมไปลงทุนโครงข่ายเพิ่มเติมเพื่อให้กองทุนมีความคุ้มค่ามากขึ้นได้หรือไม่" นายสุชาติ กล่าว

ภาพประกอบข่าว