posttoday

ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.สูงสุดในรอบ 62 เดือน

02 สิงหาคม 2561

ดัชนีเชื่อมั่นผู้ริโภคเดือนก.ค.อยู่ที่ 82.2 สูงสุดในรอบ 62 เดือน สัญญาณฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจุดเริ่มต้นของการกระจายตัว เล็งปรับประมาณการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทยปีนี้ใหม่

ดัชนีเชื่อมั่นผู้ริโภคเดือนก.ค.อยู่ที่ 82.2 สูงสุดในรอบ 62 เดือน สัญญาณฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจุดเริ่มต้นของการกระจายตัว เล็งปรับประมาณการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทยปีนี้ใหม่

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยเดือนก.ค.2561 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ 82.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 81.3 โดยเป็นการปรับต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 62 เดือน หรือ 5 ปี 2 เดือน นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2556 นอกจากนี้ยังเป็นการปรับตัวดีขึ้นในทุกรายการ เนื่องจากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคเริ่มรู้สึกว่ามีรายได้ในกระเป๋าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จะเห็นได้จากปรากฎการณ์ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาที่คนออกเดินทางกันคึกคักและมีการใช้จ่ายมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น

ทั้งนี้ ค่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ริโภคในอนาคต (6 เดือนข้างหน้า) อยู่ที่ 93.5 ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 92.5 ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 42 เดือน นับตั้งแต่เดือนก.พ.2558 เช่นเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมที่ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 67.9 ในเดือนก่อนมาอยู่ที่ 69.1 สูงสุดในรอบ 42 เดือน และค่าดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจในอนาคตปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 85.7 มาอยู่ที่ระดับ 86.9 สูงสุดในรอบ 162 เดือน หรือ 13 ปี 6 เดือน นับตั้งแต่เดือนก.พ.2548

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำ ปรับตัวดีขึ้นจาก 76.4 สู่ระดับ 77.3 ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 139 เดือน หรือ 11 ปี 7 เดือน นับตั้งแต่เดือนม.ค.2550 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานในอนาคตก็ปรับตัวดีขึ้นจาก 92.3 เป็น 93.5 สูงสุดในรอบ 168 เดือน หรือ 14 ปี นับตั้งแต่เดือนส.ค.2547 ด้านดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตปรับตัวดีขึ้นจาก 99.5 สู่ระดับ 100.2 เป็นระดับที่สูงสุดและเข้าใกล้ 100 เป็นครั้งแรกในรอบ 62 เดือน นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2556

“การปรับตัวดีขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในทุกรายการเดือนนี้เป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการกระจายตัวและกำลังซื้อจะเริ่มฟื้นตัวกลับมาดีขึ้นต่อเนื่องอีกครั้ง ทำให้คาดว่าภาวะเศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัวแบบกระจายตัวมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตที่กลับมาสู่ระดับ 100 อีกครั้งในรอบหลายหลายปี น่าจะทำให้ผู้บริโภคกล้าจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

อย่างไรก็ดี ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ยังเชื่อมั่นว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสขยายตัวได้ที่ 4.5-5% ได้อย่างแน่นอน โดยจะมีการปรับประมาณการณ์กรอบการเติบโตใหม่ในสัปดาห์หน้า

“จากสัญญาณภาพรวมเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งค่าดัชนีความเชื่อมั่นที่ออกมา การส่งออกและการท่องเที่ยวที่ยังเติบโตต่อเนื่อง จึงทำให้เชื่อมั่นได้ว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะมีโอกาสแตะ 5% ได้ และหากรัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ รวมทั้งผลักดันการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้ตามแผน ก็เชื่อว่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 2562 มีโอกาสโต 5-7% ซึ่งอาจเป็นการกลับมาโตเกิน 7% ได้เป็นครั้งแรกในรอบสิบปี” นายธนวรรธน์ กล่าว

สำหรับกรณีการเปิดประมูลคลื่นความถี่รอบใหม่ เพื่อปูทางไปสู่การพัฒนา 5 จีนั้น มองว่า หากสามารถพัฒนาไปได้เร็วก็จะเป็นผลดีต่อประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มแต้มต่อการแข่งขันได้ แต่หากการพัฒนาล่าช้าไปเกินจากแผน 6-12 เดือนก็อาจทำให้เสียโอกาสในการแข่งขันไปได้

อย่างไรก็ตาม การที่เปิดประมูลรอบนี้มีผู้เล่นลงแข่งเพียงรายเดียวก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะในทางธุรกิจรายอื่นอาจจะมองว่า ไม่คุ้มค่าในการลงทุนหรือยังไม่เหมาะสมหรือยังไม่พร้อมที่จะลงเงินลงทุนในช่วงเวลานี้ก็ได้ ซึ่งประเทศไทยยังพอมีเวลาในตัดสินใจเรื่องนี้อยู่