posttoday

ครม.อนุมัติงบกลาง3,000ล้าน ช่วยเกษตรกรเจอน้ำท่วมปี60เพิ่มเติม

17 กรกฎาคม 2561

ครม.อนุมัติงบกลางวงเงิน 3.1 พันล้านบาท ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยปี60เพิ่มเติม

ครม.อนุมัติงบกลางวงเงิน 3.1 พันล้านบาท ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยปี60เพิ่มเติม

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า ที่ประชุม คณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ได้อนุมัติงบกลางเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยปี 2560 เพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยปี 2560 ที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือครัวเรือนละ 3,000 บาท รวม 3 ช่วงภัย ได้แก่ (1) ช่วงภัยวันที่ 5 กรกฎาคม ถึง 15 สิงหาคม 2560 (พายุตาลัสและเซินกา) 2. ช่วงภัยวันที่ 16 สิงหาคม ถึง 31 ตุลาคม 2560 (พายุทกซูรี หย่อมความกดอากาศ และร่องมรสุม) และ 3. ช่วงภัยวันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม 2560 โดยขอถัวจ่ายงบประมาณระหว่างภัยได้

ทั้งนี้ ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน 2561 ในกรอบวงเงิน 3,136.735 ล้านบาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

สำหรับ แนวทางการให้ความช่วยเหลือ มีลักษณะเดียวกับการช่วยเหลือที่คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560 และ 7 พฤศจิกายน 2560 คุณสมบัติเกษตรกรที่ได้รับการช่วยเหลือ มีดังนี้

(1) เกษตรกรที่มีพื้นที่การผลิตอยู่ในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน [อุทกภัย หรือ อุทกภัยและวาตภัย หรืออุทกภัยและ....(หมายถึง อุทกภัยและภัยอื่น ๆ ตามที่จังหวัดประกาศ) หรือน้ำไหลหลาก หรือน้ำเอ่อล้นตลิ่ง] ช่วงภัยตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม 2560 ในพื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สุราษฎร์ธานี สงขลา สตูล และพังงา และต้องเป็นเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560 (ช่วงพายุตาลัสและเซินกา) และวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 (ช่วงพายุทกซูรี หย่อมความกดอากาศ และร่องมรสุม)

(2) เป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรและมีการทำกิจกรรมการเกษตรตามที่แจ้งขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานของ กษ. ก่อนเกิดภัยเท่านั้นหากเกษตรรายใดได้รับผลกระทบมากกว่า 1 ด้าน ให้ได้รับการช่วยเหลือเพียง 1 ด้าน (ด้านพืช ด้านประมง หรือด้านปศุสัตว์) โดยให้เกษตรกรเป็นผู้ระบุว่าจะขอรับการช่วยเหลือด้านใด

(3) เป็นเกษตรกรที่มีคุณสมบัติตาม (1) และ (2) และคณะกรรมการระดับหมู่บ้าน/ชุมชนรับรอง

สำหรับ การบริหารจัดการ คณะกรรมการตรวจสอบและรับรองข้อมูลเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ระดับหมู่บ้าน/ชุมชน ระดับจังหวัด และระดับกระทรวง