posttoday

ตั้งทีมคุมลงทุนสหกรณ์ หวั่นใช้เงินผิดประเภท

17 กรกฎาคม 2561

เกษตรดึงแบงก์ชาติ คลัง ก.ล.ต. ตั้งบอร์ดเฉพาะกิจตรวจเงินลงทุนสหกรณ์ออมทรัพย์ หวั่นรับเงินฝากสูงไปลงทุนผิดประเภท พร้อมเข็น3มาตรการช่วยเหลือภาคเกษตร

เกษตรดึงแบงก์ชาติ คลัง ก.ล.ต. ตั้งบอร์ดเฉพาะกิจตรวจเงินลงทุนสหกรณ์ออมทรัพย์ หวั่นรับเงินฝากสูงไปลงทุนผิดประเภท พร้อมเข็น3มาตรการช่วยเหลือภาคเกษตร

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 16 มิ.ย. 2561 ได้ร่วมประชุมและให้นโยบายกับผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยให้เร่งรัดดำเนินการใน 3 ประเด็นสำคัญ 1.เรื่องของสหกรณ์นั้น กลุ่มสหกรณ์เพื่อการเกษตรที่แข็งแรงประมาณ 800 แห่งนั้น ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ร่วมกับธนาคารของรัฐเร่งทำเวิร์กช็อปเพื่อให้แต่ละแห่งสามารถเป็นศูนย์รวมสินค้าการเกษตรและสามารถขายสินค้าไปยังผู้บริโภคโดยตรงผ่านช่องทางออนไลน์

นอกจากนี้ ในส่วนของสหกรณ์ออมทรัพย์ ขณะนี้พบว่ามีขนาดสินทรัพย์ขยายตัวใหญ่ขึ้นมาก และมองว่าใหญ่เกินไป จนมีการนำเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยง บางส่วนได้หารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปแล้ว และ ครม.มีมติให้กำหนดหลักเกณฑ์และคู่มือกำกับต่างๆ ออกมา แต่ล่าสุด นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรฯ ได้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้น มีองค์ประกอบทั้งผู้แทนจาก กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อมาพิจารณาการบริหารงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ให้มีประสิทธิภาพแข็งแรงเป็นที่พึ่งของสมาชิกได้

สำหรับประเด็นที่ 2 ได้เร่งรัด กระทรวงเกษตรฯ คือ การปฏิรูปภาคเกษตรที่ใช้ตลาดนำการผลิต โดยกลางเดือน ส.ค.นี้จะต้องเริ่มดำเนินโครงการต่างๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการลดพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง หรือข้าวรอบที่ 2 และ 3 โดยกระทรวงเกษตรฯ ได้เตรียมพืชทดแทนไว้ คือ ข้าวโพดและมันสำปะหลัง แต่ได้ให้นโยบายว่าให้ขยายไปถึงพืชกลุ่มผลไม้ พืชใช้น้ำน้อยเป็นที่ต้องการของตลาด และให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลเรื่องการตลาด

นายสมคิด กล่าวว่า ประเด็นสุดท้ายให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เร่งประชาสัมพันธ์และรับลงทะเบียนเกษตรกรเพื่อให้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการจำนำยุ้งฉางและให้เกษตรกรที่ไม่มียุ้งฉางสามารถเข้าร่วมผ่านการเก็บข้าวกับสถาบันเกษตรกรได้ ทั้งหมดนี้เพื่อให้ชาวนาไม่พลาดโอกาสที่จะได้รับประโยชน์จากราคาข้าวที่อยู่ในช่วงขาขึ้น-