30รายจ่อชิงที่ดินสุวรรณภูมิ

บิ๊กทุนรุมชิงเค้กที่ดินสนามบินสุวรรณภูมิ ทอท.เคาะเปิดประมูลปลายปีนี้ เตรียมควัก 1,500 ล้าน ลงทุน 4 สนามบินเมืองรอง

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. เปิดเผยว่า มีเอกชนรายใหญ่ มากกว่า 30 ราย สนใจเข้าลงทุนในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 1,600 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่แปลงเอ 900 ไร่ และพื้นที่ แปลงบี 723 ไร่ ทั้งนี้บริษัทใหญ่ราว 20 รายเสนอขอลงทุนในแปลงบี ซึ่งบางรายเป็นกิจการขนาดใหญ่ เสนอขอพื้นที่มากถึง 300 ไร่ ขณะที่ผู้ประกอบการรายเล็กอีกกว่า 10 ราย สนใจลงทุนในพื้นที่แปลงเอ โดยเน้นธุรกิจที่มีจุดคุ้มทุนเร็วและมีขนาดไม่ใหญ่มาก เนื่องจากระยะเวลาสัมปทานกับกรมธนารักษ์เหลือเพียง 15 ปี แต่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานแล้วในพื้นที่ แต่แปลงบีต้องไปลงทุนเพิ่มเติม

ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดประกวดราคาที่ดินดังกล่าวได้ภายในช่วงปลายปีนี้ ก่อนเปิดให้เอกชนดำเนินการพัฒนาและก่อสร้างในปี 2562 อาทิ โรงแรม การขนส่งและ โลจิสติกส์ ร้านค้าและศูนย์การค้า ขณะที่ ความคืบหน้าการเปิดประมูลร้านค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบินสุวรรณภูมินั้น คาดว่าจะได้ตัวผู้ประกอบการภายในปลายปีนี้ โดยในส่วนของเอกสารเงื่อนไขประกวดราคา (ทีโออาร์) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค.นี้

นายนิตินัย กล่าวว่า ผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 (ต.ค. 2560-มี.ค. 2561) ทอท.มีรายได้รวมทั้งสิ้น 31,259 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายหรือการให้บริการ 30,501 ล้านบาท และรายได้อื่น 758 ล้านบาท ส่วนด้านรายจ่ายอยู่ที่ 14,495 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 3,328 ล้านบาท จึงทำให้สองไตรมาสที่ผ่านมามีกำไรทั้งสิ้น 13,435 ล้านบาท

สำหรับแผนพัฒนาและบริหารสนามบิน เมืองรอง 4 แห่ง เข้าสู่กระทรวงคมนาคมแล้ว ซึ่งเป็นกลุ่มสนามบินที่ได้เสนอขอเข้าบริหารแทนกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ประกอบด้วย สนามบินอุดรธานี สนามบินสกลนคร สนามบินชุมพร และสนามบินตากนั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค.นี้ ก่อนนำเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติภายในเดือน ก.ย. โดยจะแจ้งรายละเอียดให้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นรับทราบภายในสิ้นปีงบประมาณ 2561 ก่อนเดินหน้าการลงทุน การโอนทรัพย์สิน รวมถึงรายละเอียดการแก้ไข ปรับปรุงเพิ่มเติมในแต่ละสนามบิน ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าภายในไตรมาส 2-3 ของปี 2562 ทอท.จะสามารถเข้าไปบริหารได้อย่างเต็มรูปแบบ

ด้านวงเงินลงทุนของทั้ง 4 สนามบิน รวมทั้งสิ้น 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็น สนามบินอุดรธานีราว 1,200-1,300 ล้านบาท ที่เหลืออีก 3 สนามบิน เฉลี่ยแห่งละ 50-100 ล้านบาท ทั้งนี้การลงทุนจะเน้นไปที่การติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยตามมาตรฐานของสำนักงานบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (FAA) และสำนักงานการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) อาทิ การติดตั้งเครื่องสแกนร่างกายและการติดตั้งระบบลำเลียงกระเป๋า รวมถึงการจัดซื้อรถดับเพลิงให้ได้ตามมาตรฐาน เป็นต้น