posttoday

ซูเปอร์โพลเผยคนกังวลสิ่งแวดล้อมเป็นพิษจากการลงทุน"EEC"

24 มิถุนายน 2561

ซูเปอร์โพลเผยประชาชนในพื้นที่ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา-ระยองกังวลปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษจากการลงทุน EEC

ซูเปอร์โพลเผยประชาชนในพื้นที่ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา-ระยองกังวลปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษจากการลงทุน EEC

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) มูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง โพลระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพในจังหวัด ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และ ระยอง จำนวน 1,249 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 10-23 มิ.ย.61 พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ มีความกังวลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ขยะพิษ ปัญหาสุขภาพ ปัญหาไม่ปลอดภัย รวมถึงการจ้างงานคนนอกพื้นที่มากกว่าคนในพื้นที่ จากการลงทุนในพื้นที่ EEC

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการ สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยว่า ประชาชนในจังหวัด ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.8 ติดตามข่าวสารผ่านสื่อมวลชน อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่หรือร้อยละ 63.1 เคยได้ยินแต่ไม่รู้จักว่า ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC คืออะไร และเมื่อถามว่า เคยพบเห็นหน่วยงานรัฐหรือเอกชนลงพื้นที่ให้ชาวบ้านได้ข้อมูล เห็นประโยชน์ที่ประชาชนในพื้นที่ได้รับจาก ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือไม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 73.3 ไม่เคยพบเห็นเลย มีเพียงร้อยละ 9.3 เท่านั้นที่เคยเห็นและให้ข้อมูลชัดเจน และร้อยละ 17.4 ระบุเคยเห็นแต่ให้ข้อมูลไม่ชัดเจน

เมื่อถามว่า เคยพบเห็นหน่วยงานรัฐหรือเอกชนลงพื้นที่ เตรียมความพร้อม ประชาชนในพื้นที่ให้ได้รับประโยชน์จากระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือไม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.6 ไม่เคยพบเห็น มีเพียงร้อยละ 5.7 ที่เคยเห็นและได้เตรียมความพร้อมให้คนในพื้นที่แล้ว และร้อยละ 11.7 เคยเห็นแต่ยังไม่ชัดเจน

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.5 กังวลเกี่ยวกับ สิ่งแวดล้อมเป็นพิษจากการลงทุน EEC และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.6 กังวลเกี่ยวกับ ขยะพิษ จากการลงทุน EEC ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 66.9 กังวลเกี่ยวกับ การจ้างงานคนนอกพื้นที่มากกว่าคนในพื้นที่จากการลงทุน EEC นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 80.9 กังวลเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ จากการลงทุน EEC และเมื่อถามถึง ความกังวลเกี่ยวกับ ปัญหาความไม่ปลอดภัยจากการลงทุน EEC พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.7 กังวล ในขณะที่ร้อยละ 28.3 ไม่กังวล

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.6 ระบุว่าจำเป็นต้องมีหน่วยงานรัฐและเอกชน ลงพื้นที่เตรียมความพร้อมประชาชนในพื้นที่ให้ได้ประโยชน์เต็มที่จากการลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และมีเพียงร้อยละ 4.4 ระบุไม่จำเป็น