รมว.เกษตรตั้งสอบสปก.ยื้อที่สวนปาล์ม
“กฤษฎา” สั่งตั้งกรรมการสอบเลขาฯ ส.ป.ก. เหตุบ่ายเบี่ยงดำเนินการจัดที่ดินสวนปาล์มชุมพร 6,000 ไร่
“กฤษฎา” สั่งตั้งกรรมการสอบเลขาฯ ส.ป.ก. เหตุบ่ายเบี่ยงดำเนินการจัดที่ดินสวนปาล์มชุมพร 6,000 ไร่
นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง นายสุรจิตต์ อินทรชิต เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กรณีที่ไม่เร่งรัดดำเนินการเรียกที่ดินคืนจากบริษัท สหไทยน้ำมันพืช จำนวน 6,000 ไร่ จ.ชุมพร แม้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะมีหนังสือตอบกลับมาตั้งแต่เดือน มี.ค. 2560 ว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินของ ส.ป.ก.แล้ว ตั้งแต่ ส.ป.ก.มีแผนงานโครงการกำหนดเป็นพื้นที่เป้าหมาย ตามคำสั่ง คสช.ที่ 36/2559
นอกจากนี้ กรมป่าไม้ได้ยอมรับว่าที่ดินดังกล่าวไม่ผูกพันกับกรมป่าไม้แล้ว แต่เมื่อสอบถามความคืบหน้า กลับได้รับคำตอบว่าทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกายังไม่ตอบกลับมา ทั้งที่เป็นหน้าที่ของ ส.ป.ก. เป็นการแสดงให้เห็นว่าไม่สนใจติดตามทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญของนโยบายรัฐบาล เมื่อตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงจะทำให้ทราบว่าสาเหตุจากความล่าช้าคืออะไร เพราะขณะนี้ประชาชนว่าเกือบพันคนรอที่ดินดังกล่าว
“ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่ต้องสอบก็คือ ทำไม ส.ป.ก.ไม่เข้าไปดำเนินการกับที่ดินแปลงนี้ และเมื่อสอบถามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว ก็ได้รับคำตอบจากเลขาธิการ ส.ป.ก.ไม่ชัดเจน” นายกฤษฎา กล่าว
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าว สาเหตุความล่าช้าอยู่ที่กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมป่าไม้แจ้งว่า ได้มีหนังสือถึงสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดชุมพรทราบเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2560 แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาถึงผลการหารือเรื่องอำนาจในการบริหารที่ดินแปลงที่ 83 ของบริษัท สหไทยน้ำมันพืช
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2560 และในวันที่ 9 ก.พ. 2561 กรมป่าไม้ได้มีหนังสือด่วนที่สุดเลขที่ ทส.1602.3/2535-36 แจ้งสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 สุราษฎร์ธานี ถึงผลการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาฯ ว่าพื้นที่ป่าดังกล่าวไม่ได้เป็นพื้นที่ป่าที่ไม่มีภาระผูกพันกับกรมป่าไม้อีกต่อไป ให้กรมป่าไม้ประสานกับสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชุมพร เพื่อดำเนินการในพื้นที่ต่อไป
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2561 รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รักษาการแทนอธิบดีกรมป่าไม้ได้มีหนังสือตอบปลัดกระทรวง ทส. ซึ่งอ้างถึงหนังสือของสำนักการอนุญาต กรมป่าไม้ เรียนอธิบดีกรมป่าไม้ลงวันที่ 11 มิ.ย. 2561 ว่าได้คืนคำขออนุญาตของบริษัท สหไทยน้ำมันพืช ที่ได้ยื่นกับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 คืนไปแล้ว และเพื่อไม่ให้เอกชนนำมาอ้าง ยังให้สำนัก 11 ส่งหนังสือให้บริษัทเอกชนด้วย