posttoday

กรมชลฯลดระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา เตรียมพื้นที่รองรับฝนตกหนัก

06 มิถุนายน 2561

กรมชลประทานปรับลดระดับน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มพื้นที่เตรียมรองรับปริมาณน้ำที่จะเกิดจากฝนตกหนักในพื้นที่ไทยตอนบน

กรมชลประทานปรับลดระดับน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มพื้นที่เตรียมรองรับปริมาณน้ำที่จะเกิดจากฝนตกหนักในพื้นที่ไทยตอนบน

นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศแจ้งเตือนร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่พายุโซนร้อน “เอวิเนียร์” ประกอบกับมรสุมตะวันตก- เฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก นั้น กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำโดยปรับลดระดับน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม เพื่อเพิ่มพื้นที่ไว้รองรับปริมาณน้ำที่จะเกิดจากฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบน

"โดยวันนี้เขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณน้ำไหลผ่าน 401 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)/วินาที หากเทียบกับปี 2560 ที่มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ณ เวลาเดียวกัน 699 ลบ.ม./วินาที จะเห็นได้ว่าปีนี้ มีปริมาณน้ำน้อยกว่าปีที่ผ่านมา และยังไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ"นายทองเปลวกล่าว

ทั้งนี้ปริมาณน้ำเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อน ป่าสักชลสิทธิ์ มีน้ำรวมกัน 12,880 ล้านลบ.ม. หรือ 52% เป็นปริมาณน้ำใช้การได้ 6,184 ล้าน ลบ.ม. หรือ 34% ยังรองรับน้ำได้อีกกว่า 11,900 ล้าน ลบ.ม.

สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ณ 6 มิ.ย. 2561 มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 550 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง 7.04 เมตร กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำโดยปรับลดระดับน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม เพื่อเพิ่มพื้นที่ไว้รองรับปริมาณน้ำที่จะเกิดจากฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบน

นอกจากนั้น กรมชลฯ ได้วางแผนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ โดยให้โครงการชลประทานทุกแห่งตรวจสอบระบบและอาคารชลประทาน ให้สามารถรองรับสถานการณ์น้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ การควบคุมปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์เก็บกักที่เหมาะสม พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด สำหรับพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมเป็นประจำให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำประจำพื้นที่ไว้ด้วย นอกจากนี้ ยังให้บูรณาการประสานการทำงานร่วมกับทางจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนได้รับทราบ และเตรียมพร้อมรับมือได้อย่างทันท่วงที