posttoday

ครม.ให้ลงทะเบียนสวัสดิการรัฐเพิ่มเติม กลุ่มผู้พิการ-สูงอายุ-ป่วยติดเตียง

28 พฤษภาคม 2561

ที่ประชุมครม.เห็นชอบให้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืน ในกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย

ที่ประชุมครม.เห็นชอบให้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืน ในกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ ในปี 2560 เนื่องจากมีข้อมูลของคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน จากการลงพื้นที่พบว่ามีประชาชนบางส่วนยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการลงทะเบียนฯ ในปี 2560 โดยเฉพาะผู้พิการ, ผู้สูงอายุ, ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ ซึ่งคาดว่าในกลุ่มที่จะมาลงทะเบียนเพิ่มเติมนี้จะมีไม่เกิน 1 ล้านคน

ดังนั้น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้ร่วมกันพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ และแนวทางการลงทะเบียนไว้ โดยคุณสมบัติของผู้มีสิทธิลงทะเบียนเพิ่มเติมจะใช้คุณสมบัติเหมือนการลงทะเบียนในปี 2560 เช่น สัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ว่างงานหรือมีรายได้ในปี 2559 ไม่เกิน 1 แสนบาท ไม่มี หรือมีทรัพย์สินทางการเงินรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1 แสนบาท และไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมาย เป็นต้น

"ทีมงานไทยนิยมจะลงพื้นที่ตั้งแต่กลางเดือนพ.ค. และคาดว่าภายในสิ้นเดือนมิ.ย. จะได้ข้อมูลที่ครบถ้วน ทั้งนี้ทีมงานจะลงไปในชุมชนเพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้กรอกใบสมัครถึงบ้าน ซึ่งคุณสมบัติต่างๆ ยังคงเหมือนเดิม แต่จะเพิ่มรายละเอียดเข้าไปอีกเรื่องเดียว คือ จะมีคำถามว่าต้องการจะพัฒนาตัวเองหรือไม่" นายณัฐพร กล่าว

นายณัฐพร กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ได้เคยลงทะเบียนไว้ในรอบที่แล้วและคุณสมบัติไม่ผ่านเกณฑ์ จะไม่สามารถมาลงทะเบียนเพิ่มเติมในรอบนี้ได้ ทั้งนี้ คาดว่าภายหลังการตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆ อย่างครบถ้วนแล้ว ผู้ลงทะเบียนในรอบใหม่นี้จะได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.61 เป็นต้นไป

นายณัฐพร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ ไปร่วมกันหามาตรการเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้แก่กลุ่มคนดังกล่าวที่จะได้รับสิทธิในการลงทะเบียนเพิ่มเติมในรอบนี้ด้วย