posttoday

"ทีเส็บ"เผยไทยติดอันดับ1จุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์

21 พฤษภาคม 2561

"ทีเส็บ"เผยผลสำรวจตลาดไมซ์ พบไทยติดอันดับหนึ่งจุดหมายปลายทาง ขณะที่ 87.1%อยากมาซ้ำ เหตุคุ้มค่า ต้อนรับดีและอาหารหลากหลาย ส่วนอีก 12.9% ยังไม่มั่นใจการเมือง

"ทีเส็บ"เผยผลสำรวจตลาดไมซ์ พบไทยติดอันดับหนึ่งจุดหมายปลายทาง ขณะที่ 87.1%อยากมาซ้ำ เหตุคุ้มค่า ต้อนรับดีและอาหารหลากหลาย ส่วนอีก 12.9% ยังไม่มั่นใจการเมือง

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้บริษัท คัสต้อม เอเชีย จำกัด ทำการสำรวจภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางของการจัดประชุมนานาชาติ และการจัดนิทรรศการ หรือไมซ์ (MICE)โดยสำรวจความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียในอุตสาหกรรมไมซ์กว่า 20 ประเทศทั่วโลก เบื้องต้นพบว่า ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางไมซ์ที่ได้รับความนิยมและนักเดินทางไมซ์อยากกลับมาจัดกิจกรรมไมซ์ซ้ำเป็นอันดับหนึ่ง โดยมีญี่ปุ่นและสิงคโปร์ตามมา

"การสำรวจครั้งนี้ จะเป็นการศึกษาถึงปัจจัยสำคัญในการคัดเลือกจุดหมายปลายทางไมซ์ เพื่อนำมาประเมินความลักษณ์ เพื่อใช้ในการเปรียบเทียบความสามารถในการแข่งขันและนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาและทำการตลาดโปรโมทให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในฐานะจุดหมายปลางทางไมซ์" นายจิรุตถ์ กล่าว

ทั้งนี้ได้ทำการสำรวจเชิงคุณภาพผ่านรูปแบบออนไลน์บุบาตินบอร์ด 40 ราย และแบบสอบถามออนไลน์ 649 ราย ใน 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มผู้ประกอบการไมซ์ 2.กลุ่มนักธุรกิจ 3.กลุ่มนักเดินทางไมซ์ และ 4.กลุ่มสมาคมหรือองค์กรที่ดำเนินงานเกี่ยวกับไมซ์นายสุกิจ ตันสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คัสต้อม เอเชีย จำกัด กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่า นักเดินทางไมซ์ที่เคยเดินทางมาจัดงานหรือร่วมงานไมซ์ในประเทศไทย

87.1% อยากจะกลับมาจัดงานหรือร่วมงานไมซ์ในประเทศไทย สูงเป็นอันดับหนึ่งจากทั้งหมด 20 ประเทศ และสูงกว่าสิงคโปร์ ญี่ปุ่น ฮ่องกงและจีน เนื่องจากประเทศไทยมีจุดแข็งในเรื่องของความเป็นมิตรในการต้อนรับของผู้คน ความคุ้มค่าและความหลากหลายของอาหารและกิจกรรมไมซ์

อย่างไรก็ดี ในส่วนของการสูญเสียโอกาส (CHURN Rate) ที่อยู่ 12.9% นั้น มาจากความไม่มั่นใจในสถานการณ์ทางการเมืองของไทยว่า ตัวละครทางการเมืองจะกลับมาอีกครั้งหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่นักธุรกิจและผู้จัดงานไมซ์เซ็นซิทีฟมาก

"จากข้อมูลพบว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทยในปัจจุบันควรมุ่งเน้นไปที่จุดแข็งที่มีอยู่คือ การอำนวยความสะดวกทุกด้าน การสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ให้กับผู้เข้าร่วมงาน และความเป็นเอกลักษณ์ทั้งด้านบริการ การต้อนรับ ประเพณีวัฒนธรรมและอาหาร" นายสุกิจ กล่าว

อย่างไรก็ดี ประเทศญี่ปุ่นนับเป็นครูที่ดีของไทยในการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ได้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านของความอ่อนน้อม ยินดีในการต้อนรับผู้คน และความซื่อสัตย์ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นและจะดแข็งของการเป็นจะดหมายปลายทางที่จะกลับไปเยือนอีกครั้ง