ททท.เปิดตัวมิชลินไกด์อีก7จังหวัด ดันร้านอาหารไทยติดดาวเพิ่ม

ททท.เปิดตัวมิชลินไกด์เพิ่มอีก 7จังหวัดในปริมณฑล ภูเก็ตและพังงา คาดดันร้านอาหารไทยติดดาวเพิ่ม พร้อมเดินหน้า "มิชลิน ไทยแลนด์"เกิดภายในปี68

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เป้าหมายที่ททท.อยากเห็นคือ การมีมิชลิน ไทยแลนด์ ออกมาให้ได้ภายในปี 2568 ซึ่งจะเป็นโอกาสของรัฐบาลที่จะใช้อาหารเป็นตัวนำการทองเที่ยว ทำให้เป็นการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของไทยตลอดทั้งซัพพลายเชน รวมทั้งยังเป็นการกระจายการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจลงไปยังจังหวัดเมืองรองต่างๆ ซึ่งคาดว่า จะช่วยเพิ่มรายได้ค่าใช้จ่ายด้านอาหารจากการท่องเที่ยวจาก 20% เป็น 30% หรือมีมูลค่าเพิ่มจาก 6 แสนล้านบาทเป็น 8 แสนล้านบาท ภายในปี 2565

"มั่นใจว่ามิชลิน ไทยแลนด์ น่าจะออกมาได้ เพราะเมื่อดูจากศักยภาพของประเทศไทยที่มีความหลากหลายของอาหารในแต่ละภาคที่ต่างกันแล้วก็ทำให้เชื่อมั่นได้ว่ามิชลิน ไทยแลนด์จะเกิดขึ้น แต่อาจต้องใช้เวลาบ้าง เพราะขนาดญี่ปุ่นยังใช้เวลาถึง 11 ปี" นายยุทธศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ระหว่างนี้ ททท.มีแผนที่จะทำโครงการ "พรี มิชลิน" (Pre Michelin) ซึ่งจะมาช่วยให้ความรู้ในการบริหารจัดการแก่ผู้ประกอบการร้านอาหาร ทั้งด้านวัตถุดิบและมาตรฐานร้าน เพื่อเป็นการเตรียมตัวแก่ผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยจะทำพร้อมๆ ไปกับโครงการอาหารถิ่น รวมทั้งต่อยอดไปยังตลาดต่างประเทศ หลังจากที่ประเทศไทยได้รับการคัดเลือกจากทริป แอดไวเซอร์ให้เป็น 1 ใน10 ประเทศที่ให้ประสบการณ์ด้านอาหารข้างทาง (สตรีท ฟู้ด) ดีที่สุดในโลก

นายยุทธศักดิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่กรุงเทพฯ ได้รับมิชลินไกด์ในปีที่แล้ว และมีร้านอาหารที่ได้รับ 2 ดาว 3 ร้าน และได้ทำการโปรโมทไปนั่น พบว่า มีนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศใกล้เช่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ และไต้หวัน ให้ความสนใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยเพื่อชิมอาหารไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่มองว่า ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางระดับพรีเมี่ยม

อย่างไรก็ดี ในปีนี้ มิชลินเตรียมเปิดตัวคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พักฉบับปี 2562 โดยคู่มือฉบับใหม่นี้จะครอบคลุมพื้นที่เขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรปราการ รวมถึงจังหวัดภูเก็ตและพังงาด้วย

นายเสกสรร ไตรอุโฆษ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามมิชลิน จำกัด กล่าวว่า สาเหตุที่ภูเก็ตและพังงาได้รับการคัดเลือกจากมิชลิน เนื่องจากมีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าหลงใหลจากการผสมผสานหลายๆ วัฒนธรรม จึงทำให้ทีมผู้ตรวจสอบของมิชลินประทับใจและตื่นเต้น ซึ่งถือว่าเป็นการขยายตัวของมิชลินไกด์ที่เร็วกว่าที่คาดไว้ และหวังว่า ภายใน 5 ปีนี้ จะเข้าไปตรวจสอบร้านอาหารทั้ง 2 หมื่นร้านให้ครอบคลุมมากที่สุด แต่ก็อาจจะติดปัญหาในเรื่องของจำนวนผู้ตรวจสอบของมิชลินที่มีจำกัด จึงทำให้ล่าช้าไปบ้าง

ทั้งนี้ อยากให้มองในเรื่องของร้านอาหารที่ได้รับการแนะนำ (Bib Gourmand) ด้วย เพราะร้านอาหารเหล่านี้แม้ว่าจะยังไม่ได้รับดาว แต่ก็เป็นร้านที่มิชลินไกด์แนะนำ ซึ่งผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่า จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบร้านอาหารขนาดเล็กๆ และยังเป็นโอกาสในการใช้กระจายเศรษฐกิจและรายได้ลงไปยังจังหวัดเมืองรองที่มีร้านอาหารที่ได้รับการแนะนำจากมิชลินไกด์ด้วย