ก๊าซหุงต้มจ่อขึ้นราคา

พลังงานเกาะติดราคาน้ำมันขาขึ้น เตรียมหารือพาณิชย์ รับมือก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือนราคาพุ่ง ยันไม่แตะเงินกองทุนน้ำมันหากไม่จำเป็น

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ภายใน 1 สัปดาห์นับจากนี้ ได้เตรียมหารือกับกระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวกับแนวทางการบริหารราคาขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) หรือก๊าซหุงต้มในท้องตลาดให้เหมาะสม ในช่วงที่ราคาน้ำมันและก๊าซหุงต้มในตลาดโลกเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 สัปดาห์

ทั้งนี้ สถานการณ์ราคาน้ำมันที่มี แนวโน้มอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 74.58 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และราคาแอลพีจีเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 523 ดอลลาร์/ตัน เนื่องจาก ปัจจัยการเมืองระหว่างประเทศ และความหวั่นเกรงว่าเหตุการณ์ในตะวันออกกลางอาจบานปลาย

"ขณะนี้ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 28.89 บาท/ลิตร เทียบกับช่วงที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอยู่ที่ระดับเดียวกันช่วงปี 2557 ขณะนั้นราคาดีเซลอยู่ที่ 30.42 บาท/ลิตร ขณะนี้ถือว่าราคาอยู่ในระดับที่กระทรวงสามารถดูแลได้ ส่วนราคาแอลพีจีตลาดโลกที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคา ต้นทุนและราคาขายปลีกแอลพีจีมี แนวโน้มที่จะเกินกว่าราคาแนะนำก๊าซหุงต้มบรรจุถังขนาด 15 กิโลกรัม ที่ราคาถังละ 353 บาท กระทรวงพลังงานจึงเตรียมหารือกระทรวงพาณิชย์เพื่อห้ามจำหน่ายก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือนเกินราคาจำหน่ายปลีกที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศกำหนดราคาแนะนำ เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้น" นายศิริ กล่าว

นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) หารือกับผู้ค้ามาตรา 7 กรมสรรพสามิต รวมถึงผู้ประกอบการรถบรรทุก รถขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ เพื่อหาแนวทางการปรับปรุงเครื่องยนต์รองรับน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ หรือบี 20 ในระยะนำร่องช่วงปลายเดือน มิ.ย.หรือต้นเดือน ก.ค.นี้ 10% ของรถบรรทุกที่มีประมาณ 8.8 แสนคัน จากผู้ประกอบการรถบรรทุกกว่า 30 ราย และตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนรถบรรทุก 50% ภายในสิ้นปีนี้

ทั้งนี้ มาตรการเรื่องบี 20 สอดคล้องกับมาตรการกระทรวงที่ต้องการดูดซับน้ำมันปาล์มที่ล้นตลาด จึงส่งเสริมให้มีการนำน้ำมันปาล์มดิบมาใช้ผลิตน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษให้สามารถขายได้ในราคาถูกกว่าราคาขายปลีก 3 บาท/ลิตร