posttoday

'ศิริ'ปัดห้ามแจ้งราคาน้ำมัน รมว.พลังงานกลับลำยันไม่ได้บังคับ แต่อย่าชี้นำตลาด

03 พฤษภาคม 2561

พลังงานย้ำไม่ได้ห้ามผู้ค้าประกาศราคาน้ำมันล่วงหน้า แค่ต้องการเห็นการแข่งขันมากขึ้น

พลังงานย้ำไม่ได้ห้ามผู้ค้าประกาศราคาน้ำมันล่วงหน้า แค่ต้องการเห็นการแข่งขันมากขึ้น

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ภาครัฐไม่ได้ห้ามให้ผู้ค้าแจ้งเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมันขายปลีกล่วงหน้า แต่การปรับเปลี่ยนต้องทำเพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้บริโภคเป็นหลัก ต้องไม่มีพฤติกรรมการประกาศราคาเพื่อจุดประสงค์ในการชี้นำตลาดแก่ผู้ค้ารายอื่นจนส่งผลให้ไม่เกิดการแข่งขัน เพราะหากไม่ชี้นำราคาขายปลีกอาจลดลง ได้อีก เช่น เมื่อพิจารณาค่าการตลาดปัจจุบันดีเซลอยู่ที่ 2.05 บาท/ลิตร ค่าการตลาดที่ผู้ค้าควรได้รับอยู่ที่ 1.80 บาท/ลิตร ดังนั้นราคาขายปลีกดีเซลก็ควรจะปรับลด 20-25 สตางค์/ลิตร หากมีการแข่งขันแท้จริง เป็นต้น

"ทางสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) จะหารือกับผู้ค้าน้ำมันในเร็วๆ นี้ โดยจะขอให้การเปลี่ยนแปลงราคาต้องไม่มีจุดประสงค์เพื่อเป็นการชี้นำตลาด ซึ่งผู้ค้าสามารถแจ้งเปลี่ยนราคาเองได้ เพื่อให้เกิดการแข่งขัน แต่จะไม่เกี่ยวกับภาครัฐแต่อย่างใด ซึ่งเห็นได้จากกรณีที่มีการปรับลดเงินส่งเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงาน 15 สตางค์/ลิตรนั้น ปรากฏว่า ผู้ค้าลดได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น เพราะมีผู้ค้าชี้นำตลาด" นายศิริ กล่าว

นอกจากนี้ กบง.ยังเห็นชอบส่งเสริมการดูดซับน้ำมันปาล์ม (ซีพีโอ) โดยส่งเสริม รถบรรทุกขนาดใหญ่ใช้ บี20 ราคาถูกกว่า บี7 อัตรา 3 บาท/ลิตร เป็นการจูงใจการใช้ โดยมาจากการลดภาษีสรรพสามิตที่เพิ่มจาก บี7 เป็น บี20 จำนวน 82 สตางค์/ลิตร และการอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 2.20 บาท/ลิตร โดยจะมีวงเงินอุดหนุนไม่เกิน 3,000 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายเดือน มิ.ย.นี้ โดยจะดูดซับน้ำมันปาล์มได้อีก 2.6 แสนตัน/ปี

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สนพ. ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะเดียวกันที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางการปรับราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติเพื่อรถยนต์ (เอ็นจีวี) สำหรับกลุ่มรถโดยสารสาธารณะเพิ่มขึ้นอีก 62 สตางค์/กิโลกรัม (กก.) เพื่อให้สะท้อนการปรับปรุงคุณภาพก๊าซเอ็นจีวีตามแผนการบริหารจัดการคุณภาพเอ็นจีวี ที่ส่งผลให้มีค่าเพิ่มความร้อนที่เพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการสามารถทำระยะทางได้มากกว่าเดิม โดยจะเริ่มปรับราคาในวันที่ 16 พ.ค. 2561 และจะตรึงราคาไปอีก 1 ปี จนถึงวันที่ 1 ก.ค. 2562 โดยราคาจะมาอยู่ที่ 10.62 บาท/กก. ขณะที่รถยนต์ทั่วไปไม่มีมติปรับราคา โดยราคายังเท่าเดิมที่ 13.57 บาท/กก.

"การปรับราคาขึ้นของเอ็นจีวีสำหรับรถโดยสารสาธารณะอีก 62 สตางค์ จากปัจจุบันที่มีการตรึงราคาอยู่ที่ 10 บาท/กก. เป็น 10.62 บาท/กก. เพื่อสะท้อนการปรับปรุงคุณภาพก๊าซ ขณะที่อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงยังอยู่ที่ 1 บาท/กก.เท่าเดิม" นายทวารัฐ กล่าว