โอท็อปขายดอนเมือง 'พาณิชย์' เร่งขยายช่องทางจำหน่ายสนามบินโกยเงินนักท่องเที่ยว

พาณิชย์จับมือ ทอท. ใช้พื้นที่สนามบินดอนเมืองขายสินค้าโอท็อป ซีเล็คท์ 186 รายการ โกยรายได้นักท่องเที่ยว

นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอท็อป)  โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย  หรือ ทอท. เปิดพื้นที่ให้นำสินค้าโอท็อปซีเล็คท์เข้าไปวางจำหน่ายที่สนามบินดอนเมือง โดยได้เริ่มจำหน่ายมาตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 2561 ซึ่งร้านค้าจะตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 3 ด้านทิศเหนือ ห้องพักผู้โดยสารขาออก มีผลิตภัณฑ์ที่นำไปจำหน่ายจำนวน 186 รายการ จากกลุ่มผู้ผลิตจำนวน 64 ราย

"กรมมั่นใจว่ายอดการจำหน่ายสินค้า โอท็อปในสนามบินดอนเมืองจะทำได้ดี เพราะสนามบินดอนเมืองเป็นสนามบินที่ได้รับความนิยมจากนักเดินทางชาวไทยและต่างประเทศ ที่ต้องการจะเดินทางไปทั่วภูมิภาคของประเทศไทย โดยในปี 2560 มีผู้ใช้บริการสนามบินดอนเมืองมากถึง 37 ล้านคน" นางกุลณี กล่าว

สำหรับการจำหน่ายสินค้าโอท็อปที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งกรมได้ร่วมมือกับบริษัท คิง เพาเวอร์ แท็กซ์ฟรี  ผู้บริหารจัดการร้านค้า ณ ท่าอากาศยาน ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2557 นั้น ปัจจุบันมีการนำสินค้าโอท็อปไปจำหน่ายรวม 571 รายการ จากผู้ผลิตจำนวน 147 ราย และต่อมาเดือน ก.ย. 2559 ได้ขยายความร่วมมือไปยังสนามบินภูเก็ต มีสินค้าไปจำหน่าย 433 รายการ จากผู้ผลิต 109 ราย ซึ่งมียอดขายรวมทั้งสองสนามบินจนถึงปัจจุบัน 324.63 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม กรมมีแผนที่จะดำเนินการคัดเลือกสินค้าโอท็อปซีเล็คท์เพื่อ ผลักดันให้เข้าไปวางจำหน่ายในร้านที่สนามบินเพิ่มมากขึ้น และจะขอความอนุเคราะห์การใช้ประโยชน์พื้นที่ในท่าอากาศยาน นานาชาติอื่นๆ เพื่อเปิดร้านจำหน่ายสินค้าโอท็อปต่อไปด้วย

สำหรับสินค้าโอท็อปที่มีการนำไปจำหน่ายในสนามบิน มี 9 ประเภท ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ผ้าไหมไทย งานศิลปหัตถกรรม  ของที่ระลึกท้องถิ่น  งานทำมือ เครื่องดื่ม อาหาร  เครื่องหอม และสมุนไพร โดยได้จัดพื้นที่เฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์โอท็อปซีเล็คท์ ซึ่งเป็นทำเลที่พบเห็นง่าย เพื่อให้นักเดินทางทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้ทำความรู้จักและเลือกซื้อ

ปัจุบันสินค้าโอท็อปซีเล็คท์เป็นโครงการที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ร่วมกับภาคเอกชนคัดเลือกสินค้าโอท็อปคุณภาพระดับ 3-5 ดาว จากทั่วประเทศ 2,000 รายการ เพื่อยกระดับให้เป็นสินค้าคุณภาพมากขึ้น เป็นการสร้างมูลค่าให้กับสินค้าชุมชน

ภาพประกอบข่าว