posttoday

ทดสอบรถเมล์เอ็นจีวีราบรื่น

17 มีนาคม 2561

ขสมก.ทดสอบวิ่งเมล์ เอ็นจีวีฉลุย เตรียมส่งมอบล็อตแรก 100 คันภายในสัปดาห์หน้า ก่อนทยอยบรรจุเส้นทางต่อเนื่อง

ขสมก.ทดสอบวิ่งเมล์ เอ็นจีวีฉลุย เตรียมส่งมอบล็อตแรก 100 คันภายในสัปดาห์หน้า ก่อนทยอยบรรจุเส้นทางต่อเนื่อง

นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การและรักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดผลการทดลองวิ่งรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) ว่า โครงการนี้อยู่ภายใต้โครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษารถโดยสาร 489 คัน วงเงิน 4,261 ล้านบาท โดยทดลองวิ่ง 2 เส้นทาง คือ สาย 138 พระประแดง-หมอชิต 2 (ทางด่วน) และสาย 140 แสมดำ-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ทางด่วน)

"ในช่วง 3 วันแรก ระหว่างวันที่ 14-16 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ทั้งสองเส้นทางสามารถวิ่งขึ้นสะพานพระราม 9 ได้ ในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็น ที่ติดขัด รถวิ่งข้ามสะพานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะสะพานพระราม 9 เป็นสะพานที่มีความลาดชันและสูงสุดในกรุงเทพฯ โดยการทดสอบวิ่ง 3 วันยังไม่พบปัญหาอุปสรรคเรื่องใช้รถ เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ พื้นที่ลาดสูงทำงานไม่มีปัญหา ส่วนระบบปรับอากาศมีความเย็นสม่ำเสมอ สำหรับจำนวนผู้โดยสารใน 2 เส้นทาง เฉลี่ยตกคันละ 500 กว่าคน/วัน ปกติรถเมล์วิ่งวันละ 8 เที่ยว ผู้โดยสารประมาณเที่ยวละ 70-80 คน/คัน ซึ่งมีความเทียบเท่ากับรถเมล์ปรับอากาศที่ให้บริการในเส้นทางดังกล่าว" นายประยูร กล่าว

หลังจากทดสอบเดินรถแล้ว จะมี ผู้แทน ผู้เชี่ยวชาญสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ซึ่งเป็นตัวแทนด้านวิศวกรรมเครื่องกล ผู้แทนกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และ ขสมก. ร่วมทดสอบจะสรุปความคิดเห็นผลการทดสอบ

นายประยูร กล่าวอีกว่า ในวันที่ 19 มี.ค.นี้จะนัดประชุมคณะกรรมการตรวจรับรถเมล์เอ็นจีวี ขณะเดียวกันในวันที่ 17-18 มี.ค. ทางบริษัทคู่สัญญาจะนำรถเมล์เอ็นจีวีประมาณ 100 คัน ไปตรวจสภาพและจดทะเบียนกับ ขบ. หลังจากนั้น ขสมก.ตรวจรับรถตามแผนตรวจรับวันที่ 19-20 มี.ค. 30 คัน วันที่ 21 มี.ค. 30 คัน และวันที่ 25 มี.ค. อีก 40 คัน หลังจาก ตรวจรับรถแล้วล็อตแรก 100 คัน จะส่งมอบให้เขตการเดินรถที่ 5 นำไปวิ่งให้บริการประชาชนต่อไป คาดว่าจะเริ่มทยอยวิ่งได้วันที่ 22 มี.ค.นี้ หลังจากส่งมอบ ล็อตแรก 100 คันแล้ว จากนั้นเดือน เม.ย. รับรถอีก 100 คัน พ.ค. 100 คัน และ มิ.ย. อีก 189 คัน จนครบ 489 คัน ซึ่งนำรถ ไปวิ่งให้บริการ 25 เส้นทาง