posttoday

ย้ายรถเอ็นวีจีเคลียร์รอสีส้มลุ้นคดีใกล้จบ

07 มีนาคม 2561

เบสท์ริน เตรียมย้ายรถเมล์เอ็นจีวี 83 คัน เปิดทางก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม จ่อเช็กบิลค่าย้ายและค่าเสียหายจาก ขสมก.

เบสท์ริน เตรียมย้ายรถเมล์เอ็นจีวี 83 คัน เปิดทางก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม จ่อเช็กบิลค่าย้ายและค่าเสียหายจาก ขสมก.

นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธาน บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป เปิดเผยว่า เบสท์รินเตรียมเร่งขนย้ายรถโดยสารปรับอากาศเอ็นจีวีทั้ง 83 คัน ออกไปจากพื้นที่เดิมภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อเปิดทางให้ใช้พื้นที่ก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง (เดปโป้) โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม  เป็นผลจากคำสั่งศาลแพ่ง มี คำสั่งคุ้มครองตามที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ยื่นฟ้องให้บริษัทเคลื่อนย้ายรถทั้งหมดออกจากพื้นที่ของ รฟม.

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่สำรวจ และขนย้ายในวันแรกพบว่ามีรถเมล์เอ็นจีวีใหม่เสียหายมากกว่า 10 คัน ทั้งการถูกโจรกรรมอะไหล่ โดยเฉพาะชิ้นส่วนที่มีราคาแพงอย่างแบตเตอรี่รวมถึงมีความเสียหายบริเวณตัวรถเช่นกระจกแตกอีกด้วย  ซึ่งหลังจากดำเนินการเสร็จแล้วจะขอสงวนสิทธิค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นประกอบด้วยค่าขนย้ายรถเมล์และค่าความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

สำหรับพื้นที่ใหม่ที่จะนำรถไปจอดนั้นอยู่ห่างจากพื้นที่เดิมเพียงไม่กี่ร้อยเมตรซึ่ง รฟม.ได้จัดเตรียมไว้ให้ โดยไม่ใช่พื้นที่ในเขตก่อสร้างสายสีส้มแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม การย้ายรถเมล์เอ็นจีวีครั้งนี้เพื่อรอให้ศาลปกครองมีคำสั่งตัดสินคดีข้อพิพาทระหว่าง เบสท์รินและ ขสมก. เรื่องของกรรมสิทธิ์รถเมล์เอ็นจีวี 83 คันว่าจะเป็นของใครหลังจากทางเบสท์รินยืนยันว่าได้โอนกรรมสิทธิ์ให้ ขสมก.ไปแล้ว แต่อีกฝ่ายได้มีหลักฐานชี้แจงศาลเหมือนกัน

นายคณิสสร์ กล่าวว่า มั่นใจว่าศาลปกครองจะสามารถตัดสินคดีเพื่อชี้ขาดว่าใครต้องรับผิดชอบรถเมล์เอ็นจีวีใหม่ได้เร็วนี้ๆ หลังจากที่ขั้นตอนการแสวงหาข้อเท็จจริงของศาลได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ดังนั้นเรื่องนี้น่าจะได้รู้ข้อสรุปในอีกไม่นาน

นายฤทธิกา สุภารัตน์ รักษาการแทนผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า ได้ดำเนินการปรับแผนการก่อสร้างไปสร้างในจุดอื่นก่อน เพื่อไม่ให้กระทบกับแผนการก่อสร้าง หากเคลื่อนย้ายรถเอ็นจีวีแล้วจะเร่งส่งมอบพื้นที่ให้กับผู้รับเหมาเพื่อก่อสร้างอย่างเต็มรูปแบบต่อไป