'กฤษฎา'ชงกรีดยางวันเว้นวัน

"กฤษฎา" เสนอกรีดยางวันเว้นวัน ทั้งปี ลดผลผลิตดันราคายาง เตรียมหารือ 4 ประเทศผู้ปลูกยางทำพร้อมกันเป็นเอเปกน้ำยาง

นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการชี้แจงผู้แทนองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศในทุกระดับ เพื่อเร่งรัดมาตรการใช้ยางภายในประเทศ 1.8 แสนตัน ตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ ว่า นอกจากแนวคิดเสนอให้เกษตรกรสวนยางหยุดกรีดยาง 3 ล้านไร่ เป็นเวลา 3 เดือน รัฐชดเชย 1,500  บาท/ไร่/เดือน แล้ว ขณะนี้กำลังมีอีกแนวคิดหนึ่งคือให้หยุดกรีดยางทั่วประเทศ 1 ปี โดยให้สลับกรีดแบบวันเว้นวัน และรัฐจะหามาตรการชดเชยที่เหมาะสม แต่จะไม่รบกวนเงินของรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะลดปริมาณผลผลิตยางลงได้ประมาณ 4 แสนตัน จากผลผลิตทั้งประเทศ  4.5 ล้านตัน

"ทั้งนี้จะเชิญ 4 ประเทศผู้ปลูกยาง คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย และเวียดนาม ทำพร้อมกันจากที่ก่อนหน้าช่วยกันจำกัดการส่งออกยางมาแล้ว ซึ่งหาก 4 ประเทศจับมือกันได้เราจะเป็นเหมือนโอเปกด้านน้ำยางพารา ซึ่งคาดว่าจะดันราคาขึ้นไปในระดับมีเสถียรภาพดีกว่าหยุดกรีดยาง 3 เดือน ที่ทำให้ราคาขึ้นได้ไม่กี่วัน นอกจากนั้นจะเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการกำหนดราคายาง โดยมาจาก 3 ฝ่าย คือ เกษตรกร เอกชน และรัฐ เพื่อกำหนดราคายางที่เหมาะสม ภายหลังที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ยางพาราเป็นสินค้าควบคุม ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ของกระทรวงพาณิชย์ ที่จะมาดูแลราคารับซื้อยางไม่ ให้ต่ำกว่าต้นทุน"  รมว.เกษตรฯ กล่าว

นายกฤษฏา กล่าวว่า หากถามว่ายางเป็นพืชมีอนาคตหรือไม่ ก็ตอบว่า ใน 10 ปียังมีอนาคต แต่หลังจากนั้นตอบไม่ได้ เพราะโลกเปลี่ยนเร็ว ไม่รู้จะมีอะไรมาทดแทนอีกหรือไม่ แต่ทั้งนี้สิ่งที่ต้องเร่งทำคือการลดพื้นที่ปลู กยางโดยมาตรการจูงใจเพื่อให้เกษตรกรปลูกพืชอื่นและรัฐไม่มีนโยบายส่งเสริมการปลูกเพิ่ม

ทั้งนี้ รมว.เกษตรฯ ระบุว่า ไม่สามารถให้ไทม์ไลน์ได้ว่าหลังรัฐมีมาตรการใดๆ แล้ว ราคายางจะขึ้นเท่าไร เพราะจะกระทบตลาด และนายกรัฐมนตรีไม่อยากให้เอาราคาพืชเกษตรมาหาเสียงกับชาวบ้าน  ดังนั้นทุกมาตรการที่ออกมาอาจจะเห็นผลช้าไม่ทันใจ แต่จะไม่ทำลายตลาดและกระทบต่อรัฐเพราะไม่เสียเงินซื้อยาง ราคานำตลาดมาเก็บไว้ในโกดังจนเน่าเสียเหมือนในอดีต ทั้งที่ยางในตลาด 80 บาท/กิโลกรัม แต่ไปซื้อราคากิโลกรัมละ 100  บาททำให้บิดเบือนกลไกการตลาด