posttoday

บอร์ดกทพ.ร่อนหนังสือเด้งอดีตผู้ว่าทางด่วน

21 กุมภาพันธ์ 2561

บอร์ดกทพ.ร่อนหนังสือเด้งอดีตผู้ว่าทางด่วน หลังพบพัวพันผลประโยชน์ทับซ้อน

บอร์ดกทพ.ร่อนหนังสือเด้งอดีตผู้ว่าทางด่วน หลังพบพัวพันผลประโยชน์ทับซ้อน

รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งแประเทศไทย(กทพ.)ระบุว่าที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)ในครั้งที่ผ่านมาซึ่งมีพล.อ.วิวรรธน์ สุชาติ เป็นประธานการประชุม ได้มีการพิจารณาวาระลับ เรื่องผลสอบความผิดของนายณรงค์ เขียดเดช อดีตผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย หลังมีผู้ร้องเรียนถึงการทำผิดในช่วงก่อนรับตำแหน่งที่นายณรงค์ เคยเป็นผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ จนเป็นเหตุให้ถูกย้ายไปช่วยงานที่สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว โดยล่าสุดในที่ประชุมได้ดูผลการตรวจสอบจากคณะกรรมการแล้ว และได้มีมติให้นายณรงค์ พ้นจากตำแหน่ง โดยเห็นว่าความผิดดังกล่าวผิดจากสัญญาจ้างผู้บริหารจริง เนื่องจากมีความผิดด้านผลประโยชน์ทับซ้อน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้บอร์ดกทพ.ได้มอบนายให้ทำหนังสือแจ้งให้ นายณรงค์ เขียดเดช รับทราบมติการพ้นจากตำแหน่ง และตรวจสอบค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมทั้งให้คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริง ดำเนินการสอบสวนในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหนังสือร้องเรียนนายณรงค์ ที่ยังไม่ยุติ ให้ดำเนินการสอบสวนต่อไป
 
ทั้งนี้สำหรับหนังสือแจ้งการพ้นตำแหน่งผู้ว่าฯของนายณรงค์ นั้น พล.อ.วิวรรธน์ สุชาติ ประธานกรรมการกทพ. ได้ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด ที่ กทพ.10/(ล)014 เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเนื้อหาตามหนังสือ ระบุว่า ตามสัญญาที่คณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้ว่าจ้างนายณรงค์ เขียดเดช เพื่อปฏบัติงานบริหารในตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย แต่ขณะที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ได้ปรากฎข้อเท็จจริงว่า นายณรงค์ ได้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการของสหกรณ์ออมทรัพย์การทางพิเศษแห่งประเทศไทย จำกัด ซึ่งถือว่าเป็นผู้บริหารของกิจการอื่นที่แสวงหาผลกำไร ทำให้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม คณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จึงมีมติให้นายณรงค์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการทางพิเศษฯ เนื่องจากขาดคุณสมบัติตามพ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2518 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม และ พ.ร.บ.การทางพิเศษแห่งประเทศไทย พ.ศ.2550 ซึ่งกำหนดไว้ในสัญญาจ้างผู้บริหารตำแหน่งผู้ว่าการทางพิเศษฯ ฉบับลงวันที่ 13 มกราคม 2559 ข้อ 5 การสิ้นสุดสัญญา ข้อ 5.1 และข้อ 5.2.3 โดยให้สัญญาจ้างสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 15 กพ.นี้ เป็นต้นไป
 
 
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคมเปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจากบอร์ด กทพ. แต่ประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นอำนาจของประธานบอร์ด กทพ. สามารถดำเนินการได้ทันที ทั้งนี้ จะขัดต่อคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่ได้ลงนามในคำสั่งย้ายนายณรงค์ ไปปฎิบัติหน้าที่สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. 2560 เป็นต้นไปหรือไม่นั้น ซึ่งนายไพรินทร์ ไม่ได้กล่าวตอบ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะสายตรงหรือเรียกประธานบอร์ด กทพ. ถึงรายละเอียดดังกล่าวหรือไม่ นายไพรินทร์ กล่าวว่า เป็นอำนาจของตน

รายงานข่าวกระทรวงคมนาคมระบุว่า ตามหลักการแล้ว หากมีการสอบสวนข้อเท็จจริง และมีผลสรุปออกมา หน่วยงานต้นสังกัดต้องนำผลมารายงานให้กระทรวงคมนาคมรับทราบ ก่อนที่จะมีมติใดๆ ออกไป

ภาพประกอบข่าว