เล็งลดค่าใช้จ่ายประชาชน

ครม.สั่งเกาะติดค่าใช้จ่ายประชาชนหลังพบข้อมูลเงินเฟ้อปี 2560 ค่าเดินทาง ค่าเช่าบ้านสูงเล็งหามาตรการช่วยเหลือเพิ่ม

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2561 รับทราบสถานการณ์เงินเฟ้อปี 2561 ตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงาน ซึ่งได้มีการประเมินกรอบอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ 0.7-1.7% ต่อปี ภายใต้สมมติฐานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของไทยขยายตัว 3.6-4.6%

ทั้งนี้ หลังจากนี้ต้องติดตามสถานการณ์ ในด้านค่าใช้จ่ายของประชาชนอย่างใกล้ชิด เพราะจากข้อมูลดัชนีเงินเฟ้อในปี 2560 พบว่า ประชาชนทั่วไปมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าพาหนะ และค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัย มีสัดส่วนสูงถึง 47% จึงอาจต้องพิจารณาหามาตรการออกมาช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในกลุ่มนี้ต่อไป

นอกจากนี้ ดัชนีเงินเฟ้อในปี 2560 พบว่า ราคาสินค้าเกษตรและอาหารสดลดลงเล็กน้อย กำลังซื้อของประชาชนยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ขณะที่ราคาอาหารสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นจากปัจจัยราคาน้ำมันสูงขึ้น ส่งผลให้ค่าพาหนะ ค่าเช่า และค่าใช้จ่ายอื่นๆ สูงขึ้นตาม โดยจากการสำรวจค่าใช้จ่ายครัวเรือนของกลุ่มต่างๆ สะท้อนว่า กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มคนในพื้นที่ชนบทนิยมบริโภคอาหารในบ้านสูงกว่านอกบ้าน ดังนั้นมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐในด้านต่างๆ ทั้งการดูแลราคาสินค้า การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการ และการส่งเสริมร้านธงฟ้าประชารัฐ จะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้ การช่วยเหลือเรื่องดังกล่าวสามารถขยายการทำงานระยะที่ 2 โดยเน้นการเพิ่มประเภทสินค้าที่เกี่ยวกับอาหาร เร่งกระจายร้านค้าหรือร้านธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่ ไปยังจุดห่างไกลที่สินค้าราคาแพง ซึ่งขณะนี้กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการพัฒนาวิธีการประเมินผลของมาตรการบัตรสวัสดิการประชารัฐ ว่าจะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากหรือเศรษฐกิจในท้องถิ่นได้มากน้อยเพียงใด

สำหรับตัวเลขค่าใช้จ่ายของประชาชนในปี 2560 พบว่า ค่าใช้จ่ายครัวเรือนเฉลี่ยทั้งประเทศ คิดเป็นเงินเดือนละ 20,347 บาท มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการบริโภค คือ สินค้าและบริการที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ คิดเป็น 63.64% และสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ 36.36% โดยค่าใช้จ่ายสูงสุดเป็นค่าโดยสาร ค่ายานพาหนะ ค่าน้ำมัน ค่าบริการโทรศัพท์มือถือ 23.96% ตามมาด้วยค่าเช่าบ้าน