ดึงสหกรณ์ตั้งบริษัทยาง เดินหน้าบริหารปริมาณ หวังแปรรูปก่อนส่งออกรองรับออร์เดอร์

เกษตรฯ ปั้น 10 สหกรณ์ตั้งบริษัทแปรรูปยาง หวังส่งออก ตั้งเป้าดึงปริมาณยางสู่ระบบสหกรณ์เพื่อแปรรูปเพิ่มขึ้นเป็น 18% ของยางทั้งประเทศ

นายเชิดชัย พรหมแก้ว รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์  เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานในการประชุมหารือแนวทางการจำหน่ายยางและผลิตภัณฑ์ยางพาราทั้งในและต่างประเทศ ว่า มีนโยบาย ส่งเสริมให้สหกรณ์ 10 แห่ง จัดตั้ง เป็นบริษัทรวมกลุ่มผลิตและแปรรูป ยางพาราเพื่อกระจายหุ้นให้แต่ละสหกรณ์  ซึ่งจะไม่ขัดกับกฎ หมาย โดยเตรียมของบกลางปี 2561 วงเงิน 1,500 ล้านบาท มาสนับสนุน

ทั้งนี้ สหกรณ์ 10 แห่ง มีปริมาณใช้ยางรวม 4-5 แสนตัน หรือคิดเป็น 10% จากปริมาณยางพาราทั้งหมด 4.5 ล้านตันทั่วประเทศ  ซึ่งที่ผ่านมาสหกรณ์บางแห่งได้รวบรวมและแปรรูปเป็นยางคอมปาวด์ส่งออกผ่านบริษัทเอกชนไปยังมาเลเซียและประเทศจีน ตลอดจนสั่งซื้อจากหลายประเทศเข้ามา แต่กำลังการผลิตยางเพื่อส่งขายให้กับคู่ค้าไม่เพียงพอ

ขณะที่มีสหกรณ์อีกหลายแห่งที่รวบรวมยางพารา ต้องการขยายกำลังการผลิต แต่ไม่มีช่องทางตลาดมารับซื้อ ดังนั้นกรมฯ จะทำหน้าที่ในการประสานเพื่อให้สหกรณ์ที่มีออร์เดอร์ยางพารา กับสหกรณ์ที่ทำธุรกิจรวบรวมและแปรรูปยางพาราได้มาเจอกัน  โดยเห็นว่าควรดำเนินการในรูปแบบของบริษัทซึ่งเป็นนิติบุคคลเข้ามาบริหารตลาดส่งออกยางพาราของสหกรณ์

"เบื้องต้นจะมีผู้แทนสหกรณ์ไปจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทและขายหุ้นให้สหกรณ์ทั้ง 10 แห่ง เพื่อเข้ามาถือหุ้น  คาดเดือน ก.พ.จะทำโรดแมปเสร็จและเสนอ รมว.เกษตรฯ พิจารณา โดยช่วงปีแรกที่มีการจัดตั้งองค์กรมาบริหารจะช่วยเพิ่มสัดส่วนการรวบรวมยางพาราของสหกรณ์ทั่วประเทศได้เพิ่มมากขึ้นจาก 10% เป็น 18%  และยังสามารถหาตลาดใหม่ได้ผ่านความร่วมมือจากสหกรณ์ที่มีตลาดอยู่แล้ว" นายเชิดชัย กล่าว

ด้าน นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีกรมวิชาการเกษตรจะจ่ายชดใช้ค่าเสียหายให้กับ บริษัทเอกชน ค่าต้นกล้ายางกว่า 300 ล้านบาท ตามคำพิพากษาของศาลฎีกา นั้น  ศาลให้ตกลงกับเจ้าหนี้ในการจ่าย ไม่ได้ระบุเป็นงวด ซึ่งระหว่างนี้กรมวิชาการเกษตรจะไปเจรจาลดหนี้กับเอกชน ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้  และมีแนวโน้มอาจจะได้ลดบางส่วน โดยไม่มีในเรื่องการจ่ายค่าเสียหายภาพลักษณ์ของบริษัท ยืนยันในการฟ้องเพราะกระทรวงฯ ผิดสัญญาซื้อขาย

นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ศาลฎีกามีคำพิพากษาในคดีกล้ายางกับบริษัทในเครือซีพี ที่ฟ้องอธิบดีกรมวิชาการเกษตร และกระทรวงเกษตรฯ ให้จ่ายชดใช้ค่าเสียหายจากการยกเลิกสัญญา โดยกำหนดจ่ายเป็น 2 งวดพร้อมอัตราดอกเบี้ย