posttoday

ขนส่งตั้งเป้าเปิดเส้นทางรถเมล์ใหม่ 25 เส้นทางภายในปีนี้

10 กุมภาพันธ์ 2561

กรมการขนส่งตั้งเป้าเปิดเส้นทางรถเมล์ใหม่ 25 เส้นทางภายในปีนี้-ดีเดย์ให้บริการสายY70E ฟรี 5 วัน เริ่มวันที่ 9-13 ก.พ.

กรมการขนส่งตั้งเป้าเปิดเส้นทางรถเมล์ใหม่ 25 เส้นทางภายในปีนี้-ดีเดย์ให้บริการสายY70E ฟรี 5 วัน เริ่มวันที่ 9-13 ก.พ.

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)เปิดเผยว่าความคืบหน้าการปฏิรูปเส้นทางรถโดยสาร 269 เส้นทางนั้นขณะนี้สามารถให้บริการได้แล้วสองเส้นทาง อย่างไรก็ตามปีนี้คาดว่าจะเปิดเดินรถโดยสารประจำทางในเส้นทางปฏิรูปเส้นทางรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลอีก 25 เส้นทาง ซึ่งเป็นเส้นทางใหม่ ขณะที่เส้นทางรถเมล์เดิมที่ให้บริการในปัจจุบันอยู่ระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่าน ขณะนี้สร้างความเข้าใจรับรู้ มีส่วนร่วมกับผู้ประกอบการเดินรถเส้นทางรายเดิมดำเนินการควบคู่กัน

นายสนิท กล่าวต่อว่า สำหรับเส้นทางรถเมล์สายใหม่ล่าสุดอย่างสายY70E ช่วงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศาลายา-บีทีเอสหมอชิต (ทางด่วน)นั้นได้เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันนี้ และจะให้บริการฟรีต่อเนื่อง 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 9 -13 ก.พ. 2561 โดยภายในรถยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย(Wi-Fi) ตลอดเส้นทาง และบริการสำรองที่นั่งล่วงหน้าผ่านทางโทรศัพท์

สำหรับผู้ที่ไม่ได้สำรองที่นั่งล่วงหน้าเรียกใช้บริการได้ ณ จุดจอดที่กำหนด โดยสังเกตป้ายไฟแสดงสถานะหน้ารถที่เปิดสถานะ “ว่าง” พร้อมให้บริการ สำหรับเส้นทางให้บริการ ต้นทางจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศาลายา ผ่านมหาวิทยาลัยมหิดล (ศาลายา), สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (บรมราชชนนี), ถนนราชพฤกษ์, สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต), ตลาด อตก., สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต (ฝั่งตรงข้ามกรมการขนส่งทางบก) เที่ยวกลับผ่าน สำนักงานใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต) ก่อนย้อนกลับขึ้นทางด่วนเส้นทางเดิม สำหรับเส้นทางนี้มีรถทั้งหมด 18 คัน สลับกันเดินรถขั้นต่ำวันละ 48 เที่ยววิ่ง (ไป-กลับ) อัตราค่าโดยสาร 45 บาทตลอดสาย

ด้าน น.ส.วรรณฉัตร ชัยวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัทชัยวิเศษ แทร์นสปอทจำกัด ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการเดินรถ กล่าวว่า ขณะนี้มีรถให้บริการในเส้นทางดังกล่าวแล้ว 12 คัน เบื้องต้นให้บริการเวลา 05.30-21.00 น. รถออกทุก 10-15 นาที โดยรูปแบบการจ่ายค่าโดยสารจะสามารถจ่ายได้ 2 แบบ คือ 1.ชำระด้วยเงินสด ที่จะเก็บตอนขึ้นรถ และ 2.ชำระด้วยระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือรองรับกับบัตรแรบบิทของรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสาร หลังจากที่ให้บริการแล้วบริษัทฯ ประเมินผล 3 เดือน อาทิ เรื่องพฤติกรรมการเดินทางการขึ้นลงรถของผู้โดยสารมีจุดไหนบ้าง ความพึงพอใจของผู้โดยสาร โดยส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบถามผู้โดยสารในรถขณะที่ใช้บริการ เพื่อเก็บข้อมูล ความถี่ในการปล่อยรถ เพื่อปรับให้สอดคล้องกับความต้องการเดินทางของผู้โดยสาร และเกิดการกระจายรถให้บริการผู้โดยสารได้อย่างทั่วถึง จำนวนรถที่ให้บริการเพียงพอหรือไม่ ก่อนทยอยเพิ่มรถอีก 6 คัน รวมของเดิมด้วย 12 คัน รวมทั้งหมด 18 คันตามที่กำหนดไว้