posttoday

"บิ๊กฉัตร"ถกหอการค้าไทยแก้สินค้าเกษตรไม่ได้มาตรฐาน

08 กุมภาพันธ์ 2561

พล.อ.ฉัตรชัยถก“สภาหอการค้าไทย”แก้ปัญหาสินค้าเกษตรไม่ได้มาตรฐาน หลังพบสารพิษ 3 ชนิดตกค้าง สั่งบูรณาการทำงานร่วมภาคเอกชน เร่งทำความเข้าใจผู้บริโภค

พล.อ.ฉัตรชัยถก“สภาหอการค้าไทย”แก้ปัญหาสินค้าเกษตรไม่ได้มาตรฐาน หลังพบสารพิษ 3 ชนิดตกค้าง สั่งบูรณาการทำงานร่วมภาคเอกชน เร่งทำความเข้าใจผู้บริโภค

เมื่อวันที่ 8 ก.พ.เวลา 09.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล คณะผู้บริหารสภาหอการแห่งประเทศไทย เข้าพบพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ เพื่อหารือแนวทางรณรงค์และสร้างความเข้าใจมาตรฐานปริมาณสารพิษสูงสุดที่ยอมรับได้ (เอ็มแอลอาร์) เพราะปัจจุบันมีวัตถุอันตรายทางการเกษตรมากกว่า 48 ชนิด โดยเฉพาะสารเคมี 3 ชนิดที่มีข้อถกเถียงมาก คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกไฟเซต  โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังด้วย อาทิ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น

ทั้งนี้ ที่ประชุมมีการนำเสนอใน 3 ประเด็น คือ 1.ประเทศไทยได้มีการกําหนดมาตรฐานด้านสารพิษตกค้าง หรือที่เรียกกันว่า “ปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุดที่ยอมรับได้  2.ที่ผ่านมาองค์กรภาคประชาสังคม (เอ็นจีโอ) ได้นําเสนอข่าวความไม่ปลอดภัยของสินค้าเกษตรและอาหารของไทย โดยอ้างว่าได้ตรวจพบค่ามาตรฐานสารพิษตกค้างที่เกินจากมาตรฐาน สร้างความกังวล และความไม่เข้าใจต่อผู้บริโภค และ3.ควรสร้างความเข้าใจกับผู้บริโภค ใน 2 ช่องทางผ่านสื่อโซเซี่ยล และ การจัดสัมมนา โดยขอรับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนและสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)

อย่างไรก็ตาม รองนายกฯเห็นว่าการผลิตสินค้าเกษตรที่ตรงความต้องการของผู้บริโภคเป็นสิ่งสําคัญ และที่ผ่านมาทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจรับรองสินค้าต่างๆ และยึดทําลายสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพจํานวนมาก แต่ยังมีหน่วยงานอื่น ได้สุ่มตรวจสินค้าเกษตรด้วยเช่นกัน  แต่ผลที่ออกมาแตกต่างกันทําให้ผู้บริโภคสับสน

ดังนั้น ต้องบูรณาการทํางานร่วมกันในลักษณะประชารัฐ คือ หน่วยราชการ เอกชน และ ประชาชน รวมทั้งร่วมกันป้องกันไม่ให้สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน คุณภาพถูกจําหน่ายไปยังผู้บริโภค ซึ่งคงไม่ใช่การตรวจ จากหน่วยงานราชการเพียงอย่างเดียว ทั้งผู้จําหน่าย ผู้บริโภค และ ภาคประชาสังคม ต้องร่วมมือกันไม่ซื้อ ไม่ใช้สินค้านั้น และมอบหมายให้หน่วยที่เกี่ยวข้องรับไปดําเนินการ  ซึ่งสารเคมีทั้ง 3 ชนิด  ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ของคณะกรรมการวัตถุอันตราย จึงจะต้องรอผลการพิจารณาในส่วนนี้