รอรับอียูเคลียร์ประมง

"บิ๊กฉัตร" สั่งเกษตรฯ พาเอ็นจีโอลงพื้นที่ตรวจการทำงานของศูนย์ PIPO หลังไทยถูกกล่าวหาบกพร่องเรือประมง

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย การประมงที่ขาดการรายงานและการประมงที่ขาดการควบคุม (ไอยูยู) ว่าได้มอบหมายให้นายลักษณ์ วจนานวัช รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จริงและตรวจเยี่ยมศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก (PIPO) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของ ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) เพื่อให้เห็นการทำงานที่ชัดเจน และให้นำคณะเอ็นจีโอร่วมเดินทางไปด้วย

"การที่เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป (อียู) จะเดินทางมายังประเทศไทยในเดือน เม.ย.นี้ เพื่อประเมินความก้าวหน้าในการดำเนินงานของรัฐบาล โดยมั่นใจว่าจะทำให้เห็นความก้าวหน้าหลายๆ อย่างของไทยมากขึ้น ทั้งนี้ไม่ได้คาดหวังว่าอียูจะปลดธงเหลืองหรือไม่ แต่ยังมุ่งหวังให้สามารถแก้ปัญหาของไทยให้มีความคืบหน้าและเพื่อให้มีการทำประมงอย่างยั่งยืน" พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า การติดตามเรือประมงทั้งเรือที่สูญหายหรือถูก ขายไปแล้วนั้น มีบางส่วนสามารถทำได้ยากเพราะถูกขายไปนานแล้วหรือไม่มี หลักฐานอะไรแสดงไว้ จึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับฝ่ายกฎหมาย ซึ่งเห็นว่าต้องมีการจัดทำเอกสารที่มีการรับรองจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาคมประมง นายอำเภอ หรือเจ้าหน้าที่เขต เพื่อมาใช้เป็นหลักฐานและติดตามจำนวนเรือที่ถูกขายไปหรือสูญหาย สำหรับการดำเนินการในเรื่องนี้มีขึ้นเพื่อยืนยันว่ารัฐบาลได้จัดระบบกองเรือประมงของไทยในส่วนที่ถูกขายและส่วนที่หายไปมีจำนวนเท่าไรบ้าง ด้านการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการทำประมงผิดกฎหมายนั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นและมีความคืบหน้าไปมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่าง กฎกระทรวงในการขออนุญาตและ การอนุญาตให้ทำการประมงนอกน่านน้ำไทย พ.ศ. ...และร่างกฎกระทรวงในการขออนุญาตและการอนุญาตให้ทำ การประมงพาณิชย์ พ.ศ. ...ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ