posttoday

หนุนวิศวกรไทย สร้างรถไฟเชื่อมจีนเฟส 2

27 มกราคม 2561

การดำเนินงานในเฟส 2 จากนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทางประมาณ 320 กม.นั้น ทางสภาวิศวกรได้มีการ ผลักดันให้การออกแบบโครงการนั้นเกิดจากแนวคิดของวิศวกรไทย

โดย...โชคชัย สีนิลแท้

โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ตามนโยบาย One Belt One Road ช่วงแรกกรุงเทพฯ-นครราชสีมา นั้นเริ่มเป็นรูปธรรมมากขึ้น สะท้อนได้จาก มุมมองของตัวแทนวิศวกรไทยที่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมผลักดันโครงการ ดังกล่าวให้เกิดขึ้น

ศ.อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร กล่าวว่า โครงการดังกล่าวขณะนี้มีคืบหน้าใน 2 ประเด็น เริ่มจากเฟส 1 จากกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทางประมาณ 250 กม.นั้น การอบรมวิศวกรจีนนั้นดำเนินการไปกว่า 90% ที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน โดยการออกแบบทั้งหมดจะเกิดขึ้นจากวิศวกรจีนทั้งหมด 300 คน ขณะที่วิศวกรไทยนั้นมีส่วนร่วมในเฟส 1 แค่ช่วยควบคุมงานก่อสร้าง ซึ่งจะมีวิศวกรไทยจำนวน 400 คน ประกบการทำงานร่วมกับวิศวกรจีนหรือเรียกว่า On the Job Training โดยการก่อสร้างในเฟสแรกนั้นวิศวกรไทยจะได้งานโยธาเป็นหลัก

ขณะที่การดำเนินงานในเฟส 2 จากนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทางประมาณ 320 กม.นั้น ทางสภาวิศวกรได้มีการ ผลักดันให้การออกแบบโครงการนั้นเกิดจากแนวคิดของวิศวกรไทย ซึ่งงานก่อสร้างในเฟส 2 นั้นประเมินว่าจะใช้วิศวกรไทยไม่ต่ำกว่า 250-300 คน ส่วนวิศวกรจีนนั้นจะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงแทน

"งานก่อสร้างเฟส 1 นั้นจะได้ เฉพาะงานก่อสร้างเหลือแต่งานออกแบบทางด้านไฟฟ้าและเครื่องกลที่ไทยจะ ไม่ได้งาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานทางด้านอาณัติสัญญาณ ซึ่งมูลค่างานก่อสร้างในเฟส 1 จะอยู่ที่ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท ทางไทยจะได้ประโยชน์จากการก่อสร้าง 75% ส่วนทางจีนนั้น จะได้ 25% ในการออกแบบ การควบคุมและตู้รถ" ศ.อมร กล่าว

สำหรับเฟส 2 นั้นทางสภาวิศวกรจะผลักดันให้วิศวกรไทยได้เข้าไปมีบทบาทมากขึ้นในการออกแบบ หลังจากได้เรียนรู้งานจากทางการจีนทางด้านการก่อสร้างโครงการ โดยจะให้วิศวกรผู้ทรงความรู้ของไทยได้เข้าไปเรียนรู้งาน อาทิ คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยทางด้านวิศวกรรมเข้าไปร่วมงาน เพื่อที่จะให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ส่งต่อ ซึ่งในเฟส 2 ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 80-85% ขณะที่สัดส่วนที่เหลือจะเป็นของจีน

ทั้งนี้ มีการประมาณการว่าใน เฟส 2 จะมีวิศวกรไทยเข้าร่วมประมาณ 700-800 คน ทั้งร่วมออกแบบและ ควบคุมงาน ซึ่งการอบรมวิศวกรไทยและจีนนั้นจะต้องแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 8 เดือนตามสัญญาที่นับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2560 เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขในการตรวจรับงานที่จะต้องใช้งบประมาณในการอบรม 40-50 ล้านบาท โครงการนี้เชื่อว่าจะเห็นเฟส 1 ได้ภายใน 5 ปี อย่างไรก็ตามการก่อสร้างในเฟส 2 ยังต้องรอลุ้นว่ารัฐบาลจะเดินหน้าพร้อม ต่อในคราวเดียวกันหรือไม่