กรมเจ้าท่าเร่งยกเครื่องท่าเรือภาคใต้รับท่องเที่ยวแสนล้าน

‘สมคิด’ สั่งกรมเจ้าท่ายกเครื่องท่าเรือภาคใต้รับการท่องเที่ยวแสนล้าน สั่งเอกชนกางแผนแอคชั่นแพลนพ่วงลงนามเอ็มโอยูเร่งลงทุนขุดร่องน้ำลดต้นทุนขนส่งสินค้า

นายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า(จท.)เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้จท.เร่งพัฒนาศักยภาพท่าเรือในตัวเมืองสุราษฎร์ธานีเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งด้านคุณภาพและบริการตลอดจนส่งเสริมนโยบายท่องเที่ยวเมืองรอง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวสร้างเม็ดเงินให้ประเทศจำนวนมากนับแสนล้านบาทเพราะเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่สำคัญทั้งเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่าและเขื่อนเชี่ยวหลานเป็นต้น ดังนั้นจึงได้สั่งการให้บริษัทเอกชนรายใหญ่ที่ให้บริการเรือรับส่งและท่าเรือในพื้นที่ไปจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan) มาเสนอกรมเจ้าท่าเพื่อวางแผนรองรับนักท่องเที่ยวในระยะยาว ทั้งด้านแผนปรับปรุงและขยายท่าเรือ แผนลงทุนจัดซื้อเรือ แผนพัฒนาบุคลากรและแผนความปลอดภัยเป็นต้น โดยต้องระบุเวลาในการดำเนินการที่ชัดเจน สำหรับแผนการลงทุนจัดซื้อในระยะเบื้องต้นเอกชนเสนอแผนจัดซื้อเรือเพิ่มรวม 3 ลำ ทั้งนี้ได้สั่งการให้เอกชนเสนอแผนดังกล่าวเข้ามาภายในเดือนนี้ก่อนจัดพิธีลงนามสัญญาบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับผู้ประกอบการในพื้นที่

สำหรับประเด็นผู้โดยสารล้นท่าเรือช่วงเทศกาลวันหยุดยาวตามที่รองนายกรัฐมนตรีให้ความกังวลนั้น กรมเจ้าท่าได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้เทคโนโลยีเข้ามาแก้ปัญหา อาทิ การเพิ่มช่องทางจำหน่ายตั๋วโดยสารประกอบกับมีเอกชนบางรายได้ยกเลิกระบบการจองระยะยาวโดยเปลี่ยนไปใช้ระบบการจองแบบตั๋วเครื่องเพื่อเอื้อให้บริการที่นั่งได้มากขึ้น ทั้งนี้กรมเจ้าท่าได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวทั่วประเทศให้ใช้เสื้อชูชีพใหม่ตามมาตรฐานใหม่ที่กรมเจ้าท่าได้ประกาศบังคับใช้เมื่อต้นเดือนนี้ ปัจจุบันเมืองพัทยาได้เปลี่ยนเสื้อชูชีพใหม่หมดแล้วพบว่าได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยว

นายณัฐกล่าวต่อว่าส่วนด้านการขนส่งสินค้าจท.ได้สั่งการให้ทำการศึกษาการเดินเรือเรื่องการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารในแม่น้ำตาปี จ.สุราษฎร์ธานีและหมู่เกาะอ่างทอง ทั้งระบบ โดยจะว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อดำเนินการศึกษารูปแบบและความคุ้มค่าเพื่อการลงทุนขุดล่องน้ำเพื่อรองรับเพื่อลดต้นทุนการขนส่งสินค้าทางน้ำและรองรับเรือสินค้าขนาดใหญ่ โดยเบื้องต้นต้องขุดมีความลึกอย่างน้อย 5 เมตรเพื่อแก้ปัญหาแก้ปัญหาจราจรทางน้ำ เนื่องจากปัจจุบันท่าเทียบเรือกำหนดให้เรือกินน้ำลึกได้แค่ 4 เมตร ทำให้เรือต้องบรรทุกสินค้าให้มีน้ำหนักสอดคล้อง ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถเข้าจอดได้ ทั้งที่เรือมีศักยภาพในการบรรทุกสินค้าได้มากกว่านั้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการขนส่งทางน้ำลดลง