posttoday

แห่ตุนแสตมป์บุหรี่ เลี่ยงจ่ายเงินคนชรา

16 มกราคม 2561

ผู้ผลิตและผู้นำเข้าบุหรี่ แห่ตุนแสตมป์เสียภาษีสรรพสามิต กลัวจ่ายเพิ่มอีกซองละ 70 สตางค์ เข้ากองทุนคนชรา

ผู้ผลิตและผู้นำเข้าบุหรี่ แห่ตุนแสตมป์เสียภาษีสรรพสามิต กลัวจ่ายเพิ่มอีกซองละ 70 สตางค์ เข้ากองทุนคนชรา

แหล่งข่าวจากกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ผลิตและผู้นำเข้าบุหรี่เร่งมาซื้อแสตมป์เสียภาษีสรรพสามิตบุหรี่ในเดือน ม.ค. 2561 เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากวันที่ 26 ม.ค.นี้ จะมีการเก็บภาษีบุหรี่ เบียร์ สุรา 2% ของภาษีที่เสียอยู่ แต่ไม่เกิน 4,000 ล้านบาท/ปี ทำให้บุหรี่ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอีกซองละประมาณ 70 สตางค์

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการเก็บภาษีบุหรี่เดือน ม.ค. 2561 จะไม่สูงเท่ากับเดือน ธ.ค. 2560 ที่เก็บภาษีได้ถึง 6,500 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ผลิตและผู้นำเข้าเริ่มมีการออกของก่อนที่จะต้องเสียภาษีให้กองทุนผู้สูงอายุตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาแล้ว

ทั้งนี้ การเก็บภาษีบุหรี่ในเดือน ต.ค. 2560 ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 เก็บได้ 3,600 ล้านบาท ต่อมาเดือน พ.ย. 2560 เก็บได้ 5,600 ล้านบาท เดือน ธ.ค. 2560 เก็บได้สูงสุด 6,500 ล้านบาท และเดือน ม.ค. 2561 คาดว่าจะเก็บได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท น่าจะทำให้การเก็บภาษีบุหรี่ 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 เกินกว่าเป้าหมายอยู่เล็กน้อย 1-2%

"การเสียภาษีบุหรี่ให้กองทุนผู้สูงอายุ เพิ่มมากขึ้น เป็นส่วนที่เรียกเก็บจาก ผู้ประกอบการ ไม่น่าจะมีผลต่อราคาขายปลีก เพราะผู้ประกอบการไม่ได้แจ้งเปลี่ยนราคาขายปลีกใหม่แต่อย่างใด คาดว่าจะยอมกำไรลดลงเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ให้มากที่สุด" แหล่งข่าวจากกรมสรรพสามิต เปิดเผย

สำหรับการออกมาตรการเพื่อบรรเทาปัญหาการใช้โครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ที่เกิดขึ้นกับโรงงานยาสูบทำให้มีกำไรลดลงอย่างมาก และเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับบุหรี่ต่างประเทศที่ลดราคาขายลงมาแข่งขันกับบุหรี่ในประเทศ ขณะนี้กรมสรรพสามิตและกระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการทุกราย รวมถึงไม่กระทบกับการเก็บภาษีของรัฐบาล และต้องบรรลุวัตถุประสงค์ในการลดผู้สูบบุหรี่ให้น้อยลงด้วย.