posttoday

คมนาคมจี้กทม.สรุปแผนโอนหนี้ภายใน 1 สัปดาห์

12 มกราคม 2561

คมนาคม โยนกทม.รับโอนหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งหมด 6 หมื่นล้านบาท ยันโครงการไร้ความเสี่ยงพร้อมมีกำไรภายใน 25 ปี จี้เสนอแผนภายใน 1 สัปดาห์หวังปิดดีลภายในเดือนนี้

คมนาคม โยนกทม.รับโอนหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งหมด 6 หมื่นล้านบาท ยันโครงการไร้ความเสี่ยงพร้อมมีกำไรภายใน 25 ปี จี้เสนอแผนภายใน 1 สัปดาห์หวังปิดดีลภายในเดือนนี้

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการกำกับดูแลและติดตามผลการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า ที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) เกี่ยวกับประมาณการรายได้ ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน แต่ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องการโอนหนี้สินและทรัพย์สิน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 32 กิโลเมตร วงเงิน 6 หมื่นล้านบาท จากสังกัดการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไปอยู่ในสังกัด กทม.หรือไม่ เนื่องจากที่ประชุมได้มอบหมายให้กทม.และรฟม.กลับไปคิดอย่างละเอียดก่อนนำมาเสนอที่ประชุมอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ซึ่งมั่นใจว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแน่นอน

ด้านนายชาติชาย ทิพสุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการโอนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับกทม.ไปบริหารนั้นจากการหารือกันล่าสุดทางภาครัฐบาลได้เสนอให้กทม.รับภาระหนี้สินและทรัพย์สินของโครงการเองทั้งหมด 100% ซึ่งมีมูลค่าราว 6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากทางภาครัฐบาลและกระทรวงคมนาคมได้วิเคราะห์แผนงานและตัวเลขทางการเงินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่กทม.ได้นำเสนอมาแล้วพบว่าโครงการดังกล่าวถือว่าเป็นโครงการที่มีศักยภาพในการทำรายได้ในระยะยาว ทั้งรายได้จากด้านค่าโดยสารและรายได้เชิงพาณิชย์ อีกทั้งยังไม่มีความเสี่ยงของโครงการทั้งด้านปัญหาเวนคืนพื้นที่ ปัญหาบุคลากรรวมถึงปัญหากฎหมายเป็นต้นเพราะเป็นโครงการที่ดำเนินการก่อสร้างเรียบร้อยแล้วมีความพร้อมที่จะหารายได้ทันทีเมื่อเปิดให้บริการ

โดยจากการสรุปข้อมูลเบื้องต้นพบว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถเข้าสู่จุดคุ้มทุน (Break-Even ) 25-26 ปีก่อนรับรู้กำไรในการให้บริการต่อไป ส่งผลให้รถไฟฟ้าสายสีเขียวดังเป็นโครงการศักยภาพที่แหล่งเงินทุนเชื่อมั่นพร้อมให้กทม.กู้เงินไปดำเนินการรับโอนหนี้สินและทรัพย์สินของโครงการได้ อย่างไรก็ตามกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้กทม.ไปสรุปแผนตัวเลขทางการเงินและกระแสเงินสด พร้อมแผนชำระหนี้สินจำนวน 6 หมื่นล้านบาทให้กับภาครัฐบาลว่าจะมีแผนทยอยชำระหนี้อย่างไรหรือจะขอการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างไรบ้างโดยให้เวลา 1 สัปดาห์เพื่อกลับมาเสนอกระทรวงคมนาคมอีกครั้ง ซึ่งทางภาครัฐบาลก็ยืนยันว่าพร้อมจะสนับสนุนเต็มที่ด้วยเงื่อนไขที่ว่าให้กทม.รับโอนหนี้สินและทรัพย์สินทั้ง 100% ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมตั้งเป้าจะเร่งหาข้อสรุปเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ได้เร็วที่สุดเพื่อเร่งเสนอแผนการดำเนินโครงการต่อที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ซึ่งมีนาย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธาน รวมถึงเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการให้ได้ตามแผนคือภายในเดือนธ.ค. 2561 ทั้งนี้หากกทม.ยังไม่สามารถหาข้อสรุปเรื่องดังกล่าวได้ทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ก็มีแผนสำรองพร้อมที่จะเข้าบริหารโรงการดังกล่าวเองอีกด้วย