ขสมก.ยันเดินหน้าขึ้นราคาค่าโดยสารรถเมล์ 2 บาท

คมนาคมรับรถเมล์ค่าโดยสารต่ำทำขาดทุน ขสมก.ยันเดินหน้าขึ้นราคา 2 บาท

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กรณีที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เตรียมเสนอปรับอัตราค่าโดยสารรถเมล์เพิ่มขึ้น 2 บาทนั้น ก่อนหน้านี้คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางได้กำหนดอัตราค่าโดยสารไว้อยู่แล้ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนไม่ได้เก็บตามาตรฐานที่กำหนด ส่งผลให้ต้องเก็บค่าโดยสารต่ำกว่าต้นทุนจริงจนทำให้องค์กรมีปัญหาขาดทุนเพราะราคาไม่สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง

ด้านนายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ขสมก.จัดเก็บค่าโดยสารในอัตราที่ต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริง ตลอดส่งผลให้ ขสมก.มีผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่อง ดังนั้นจึงเตรียมเสนอขอปรับขึ้นค่าโดยสาร ในระยะแรกจะขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง กล่าวคือ รถโดยสารธรรมดาปรับเพิ่มอีก 1.50 บาท และรถโดยสารปรับอากาศปรับเพิ่มขึ้นอีกระยะละ 2 บาท หลังจากนี้ขสมก.จะต้องนำเสนอแผนฟื้นฟูกิจการ เข้าสู่ที่ประชุมสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อขอความเห็นชอบก่อน หลังจากนั้นจะต้องนำเสนอแผนฟื้นฟู ต่อกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอความเห็นชอบต่อไป ซึ่งหากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว ขสมก.ก็พร้อมที่จะปรับอัตราค่าโดยสารภายในปี 2561 แต่ทั้งนี้ การขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารดังกล่าว ขสมก.จะดำเนินการภายหลังจากที่ได้มีการนำรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน เข้ามาให้บริการประชาชนแล้ว

นายประยูร กล่าวต่อว่า ในอดีตที่ประชุมคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2558 เคยมีมติให้ ขสมก.ปรับขึ้นราคารถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศเพิ่มอีก 1 บาท ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558 เพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับราคาก๊าซธรรมชาติ (CNG) ที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ ขสมก.ได้ชะลอการปรับขึ้นราคา เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม ที่ให้ชะลอการปรับอัตราค่าโดยสารออกไปก่อน เนื่องจากไม่ต้องการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายด้านการเดินทาง แก่ประชาชน ซึ่งอัตราค่าโดยสารดังกล่าว ยังต่ำกว่าอัตราค่าโดยสารรถเอกชนร่วมบริการธรรมดา 1.50 บาท และรถเอกชนร่วมบริการปรับอากาศระยะละ 2 บาท ขสมก.จึงได้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการองค์การ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพบริการ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย อีกทั้งยังสามารถเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่เป็นภาระของภาครัฐ ซึ่งแผนการขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร อยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการดังกล่าว