สต๊อกปาล์มทะลักเพิ่ม เดือนพ.ย.พุ่ง5.32แสนตัน

สต๊อกน้ำมันปาล์มเดือน พ.ย.พุ่ง 5.32 แสนตัน ทำราคาผลปาล์มหน้าโรงงานรับซื้อเหลือ 3.30 บาท/กก.

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า จากการตรวจสอบสต๊อกน้ำมันปาล์มในเดือน พ.ย. 2560 พบว่า ยังมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีปริมาณในสต๊อก 5.32 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากเดือน ต.ค. 2560 ที่มีปริมาณ 5.19 แสนตัน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับเกินภาวะปกติที่ระดับน้ำมันปาล์มควรอยู่ที่ 2-3 แสนตัน ทำให้ราคาผลปาล์มสดในประเทศยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคาปาล์มทะลายแหล่งผลิตสำคัญ (เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 18%) ที่โรงงานรับซื้อ ณ วันที่ 28 ธ.ค. 2560 อยู่ที่ 3.30 บาท/กิโลกรัม (กก.) ลดลงจากช่วงต้นเดือน ธ.ค. 2560 อยู่ที่ 3.50 บาท/กก.

ขณะที่การใช้น้ำมันปาล์มดิบเพื่อผลิตไบโอดีเซลเดือน พ.ย. 2560 มีปริมาณ 7.55 หมื่นตัน ลดลงจากเดือน ต.ค. 2560 ที่มีการใช้น้ำมันปาล์มดิบผลิตไบโอดีเซล 8.34 หมื่นตัน ส่วนการบริโภคน้ำมันปาล์มในประเทศและใช้เพื่ออุตสาหกรรมอื่นๆ พบว่า เดือน พ.ย. 2560 มีการใช้น้ำมันปาล์ม 1.29 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากเดือน ต.ค. 2560 ที่มีการใช้น้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคในประเทศและใช้เพื่ออุตสาหกรรมอื่นๆ 1.09 แสนตัน

ด้าน นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ในส่วนของการแก้ไขปัญหายางพารา โดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้รายงานผลตรวจสต๊อกยางพาราของรัฐบาลที่อยู่ในการดูแลตามที่ได้สั่งการ 23 ธ.ค. 2560 พบว่าสต๊อกยางยังอยู่ครบทั้ง 1.4 แสนตัน ในโกดังต่างๆ ซึ่งทั้งหมดจะรอผลการตรวจสอบสต๊อกของคณะกรรมการชุดพิเศษของกระทรวงเกษตรฯ เพื่อตรวจสอบจำนวนที่แท้จริงว่าเป็นไปตามที่ กยท.รายงานไว้หรือไม่

ทั้งนี้ กยท.จะเริ่มเข้าซื้อยางพาราเพื่อใช้ในโครงการของแต่ละกระทรวงตั้งแต่เริ่มเปิดทำการหลังหยุดเทศกาลปีใหม่ ปี 2561 ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบกลางปี 2561 จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อซื้อยางประมาณ 2 แสนตัน ระยะเวลารับซื้อเดือน ธ.ค. 2560-30 เม.ย. 2561 การรับซื้อยางจะมีการประกาศราคากลางที่ กยท.กำหนด

"กยท.จะแถลงข่าวในสัปดาห์นี้ เพื่อชี้แจงการรับซื้อของหน่วยงานภาครัฐที่จะนำไปใช้ในหน่วยงานราชการปี 2561 จำนวน 2 แสนตัน เช่น ถนนลาดยางมะตอย ยางปูพื้นแบบ Block สนาม ฟุตซอล ยางปูสระน้ำ เป็นต้น ล่าสุดทางสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมได้รับรองสินค้าไว้ 108 ชนิดที่ทำจากยางพารา" นายกฤษฎา กล่าว

ภาพประกอบข่าว