แอลพีจีขาลงวัดใจร้านก๊าซขยับราคาตาม

แอลพีจีตลาดโลกเคลื่อนไหวลดลง ราคาอ้างอิงแตะกิโลละ 20.42 บาท สะท้อนกลไกตลาดโลก ลุ้นผู้ค้าปรับขายปลีกลง

รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ภายหลังจากมีการปรับเกณฑ์การประกาศราคาอ้างอิงก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ใหม่เป็นรายสัปดาห์ เพื่อให้สอดคล้องกับราคาตลาดโลก และการเปิดเสรีก๊าซ แอลพีจี พบว่า ช่วงสัปดาห์แรกของเดือน ธ.ค.  2560 ราคาอ้างอิงก๊าซของแอลพีจีอยู่ที่ระดับ 21.15 บาท/กิโลกรัม (กก.) เป็นผลจากการประกาศราคาแนะนำของที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) หลังจากนั้นเมื่อเข้าสู่ช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ระหว่างวันที่ 13-18 ธ.ค. 2560 ราคาอ้างอิงลดลงมาที่ 20.95 บาท/กก. และเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2560 ราคาอ้างอิงลดลงมาอยู่ที่ 20.42 บาท/กก. ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวคล้ายกับราคาน้ำมันที่สะท้อนราคาตลาดโลกอย่างแท้จริง

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า ภายหลังลอยตัวราคาแอลพีจี  สนพ.ได้มีการประกาศราคาอ้างอิงสำหรับขายปลีกคล้ายกับการประกาศราคาขายปลีกน้ำมัน เพียงแต่เป็นการประกาศรายสัปดาห์ ขณะที่ราคาน้ำมันเป็นการเคลื่อนไหวรายวัน ส่วนหลังจากนี้ ผู้ค้าก๊าซจะมีการปรับเปลี่ยนราคาขายปลีกตามราคาอ้างอิงหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้ค้าแต่ละราย

ขณะที่ นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) กล่าวว่า ขณะนี้ราคาแอลพีจีในตลาดโลกอยู่ในช่วงแกว่งตัว แม้ว่าโดยปกติราคาช่วงปลายปีจะเป็นช่วงขาขึ้นก็ตาม ดังนั้นอาจทำให้ราคามีความผันผวนอยู่บ้าง  โดยหากราคาอ้างอิงปรับลดลงอย่างต่อเนื่องจะต้องมีปรับลดราคาให้สอดคล้องกับที่ สนพ.ประกาศราคาอ้างอิงไว้

"โดยทั่วไปราคาก๊าซแอลพีจีช่วงปลายปีจะปรับตัวเข้าสู่ช่วงขาขึ้น แต่ขณะนี้ราคาแกว่งตัวและปรับลดลง ผู้ประกอบการยืนยันว่าหากราคา แอลพีจีปรับตัวลดลงต่อเนื่องจะต้อง หารือกันถึงแนวทางว่าจะมีการปรับลดราคาลงเท่าไร อย่างไร โดยยืนยันว่าจะไม่มีการเอาเปรียบผู้บริโภคแน่นอน แต่ส่วนหนึ่งก็ยอมรับว่าการเปิดเสรีแล้วราคาล้อไปกับตลาดโลกถือเป็นเรื่องที่ดี" นายชิษณุพงศ์ กล่าว

นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กล่าวว่า การเดินทางท่องเที่ยวช่วงท้ายปีโดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่อากาศหนาวเย็นทำให้คนท่องเที่ยวมากขึ้น ส่งผลให้ไตรมาส 4 ของปีนี้การใช้น้ำมันทุกประเภทจะเติบโตได้ 10% ถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงสุดในปีนี้