posttoday

เปิดเกมลับลวงพลางแก้กม.พรรคการเมือง

16 ธันวาคม 2560

เส้นทางสู่การเลือกตั้งออกอาการสะดุด หลังติดเงื่อนไขคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

เส้นทางสู่การเลือกตั้งออกอาการสะดุด หลังติดเงื่อนไขคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่สะกดไม่ให้พรรคการเมืองจัดประชุมกระทบไปถึงออกมาเคลื่อนไหวทำกิจกรรมอันกระทบต่อไปถึง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่กำหนดให้พรรคต้องแจ้งฐานข้อมูลทะเบียนสมาชิกที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดจนเปิดประชุมใหญ่เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค รวมทั้งแก้ไขข้อบังคับพรรคนั้น ซึ่งมีเดดไลน์จะครบกำหนดในวันที่ 5 ม.ค. 2561

นำมาสู่ข้อเสนอเสียงเรียกร้องให้ คสช.รีบปลดล็อก และการแก้ไขพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองในหลายประเด็น

เริ่มตั้งแต่ ไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป ยื่นหนังสือถึง พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เสนอให้แก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 140 และมาตรา 141 เพื่อขจัดความเหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรมระหว่างสมาชิกพรรคการเมืองและพรรคการเมือง

เน้นเรื่องความเหลื่อมล้ำระหว่างสมาชิกพรรคที่ต้องชำระและไม่ต้องชำระค่าบำรุงพรรค แต่มีสิทธิเท่าเทียมกัน ทำให้เกิดสมาชิกพรรคสองมาตรฐานกฎหมายดังกล่าวรับรองให้สมาชิกพรรคการเมืองที่มีอยู่เดิม ให้มีสถานะเป็นสมาชิกพรรคต่อไป โดยไม่ต้องชำระค่าบำรุงพรรคเป็นเวลา 4 ปี ขณะที่พรรคการเมืองที่ตั้งใหม่ต้องชำระทุนประเดิมไม่น้อยกว่า 1,000 บาท

เพื่อให้การเลือกตั้งปลายปี 2561 มีความเป็นธรรม มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง อยากให้ สนช.พิจารณาแก้ไขพ.ร.บ.พรรคการเมืองปี 2560 โดยให้สมาชิกพรรคที่มีอยู่ในข้อมูลของพรรคการเมืองเดิมยังไม่มีสถานะเป็นสมาชิกพรรคจนกว่าจะยื่นความจำนงสมัครเป็นสมาชิกพรรคเดิม พร้อมชำระค่าบำรุงพรรคก่อน จึงจะมีสิทธิเป็นสมาชิกพรรค

รวมทั้งให้แก้ไขกระบวนการยื่นจัดตั้งพรรคใหม่ให้มีความสะดวกรวดเร็วเพื่อขจัดความเหลื่อมล้ำ ไม่เท่าเทียมกันระหว่างสมาชิกพรรค ถ้าจำเป็นต้องนำไปสู่การรีเซตสมาชิกพรรคการเมืองทั้งหมดก็ต้องทำ โดยให้สมาชิกพรรคทุกพรรคมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคใหม่ทุกพรรค

คล้ายกับ สุเทพ เทือกสุบรรณเลขาธิการ กปปส. ที่ไม่ได้ลงรายละเอียดแต่ทำหนังสือถึงประธาน สนช. เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ระบุว่า

“เนื่องจากบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญมาตรา 268 ได้กำหนดกรอบเวลาในการดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเอาไว้ อีกทั้งมีบทบัญญัติใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 กำหนดขั้นตอนวิธีการปฏิบัติในการจัดตั้งพรรคการเมือง การดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองและการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง

เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและความเท่าเทียมในโอกาสทางการเมืองแก่พรรคการเมืองเก่า และพรรคการเมืองที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่จึงเห็นสมควรให้มีการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศเพื่อให้พรรคการเมืองสามารถปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายได้โดยสมบูรณ์ครบถ้วน”

ล่าสุด สมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย เสนอให้มีการงดเว้นใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา เพื่อสร้างความปรองดอง โดยกำหนดให้สส.ไม่ต้องสังกัดพรรคการเมือง เพราะจะทำให้มีความเป็นอิสระ ไม่ผูกติดกับมติพรรค เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาเรื่องความปรองดอง

“รัฐบาลสามารถใช้มาตรา 44หรือแก้ไข้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ สส.ไม่ต้องสังกัด และใช้ระบบเลือกตั้งแบบแบ่งเขตทั้งหมด 400 เขต โดยไม่ต้องมี สส.บัญชีรายชื่อมีระยะเวลาทำงาน 1 ปี”

ข้อเสนอเหล่านี้จะนำไปสู่การปรับแก้มากน้อยแค่ไหนอยู่ที่ทางผู้มีอำนาจจะ ดำเนินการต่อไป ท่ามกลางกระแสว่าการดำเนินการทั้งหมดนี้คือแผนยื้อการเลือกตั้งออกไป