ขสมก.คาดปี 61ได้นั่งรถเมล์เอ็นจีวี

ขสมก.เล็งส่งมอบรถเมล์เอ็นจีวีล็อตแรก 100 คัน ภายในไตรมาสแรก ปี 61 ยันปรับสัญญาแคสบ็อกหลังพบคุณภาพเครื่องต่ำ

นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่าความคืบหน้าโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) 489 คัน วงเงิน 4,020 ล้านบาทนั้นคณะกรรมการ(บอร์ด)นั้นบอร์ดได้มอบให้ ขสมก. ไปต่อรองกับเอกชนที่ชนะประมูลพร้อมหาเหตุผลมาสนับสนุนทางกฎหมายเรื่องราคาประมูลสุงกว่าราคากลางไม่เกิน 10% ซึ่งสามารถทำได้ เนื่องจากไม่เกินกรอบวงเงินงบประมาณที่ตั้งไว้ในการขออนุมัติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งหมด 13,000 ล้านบาท ในการจัดซื้อรถ 3,138 คัน

นายณัฐชาติกล่าวต่อว่าหลังจากนี้จะมีการนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ขสมก.พิจารณาเห็นชอบอีกครั้ง ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ หากมีมติเห็นชอบก็คาดว่าจะลงนามสัญญาได้ภายใน ธ.ค. นี้ เพราะร่างสัญญาได้ดำเนินการแล้วและหลังจากลงนามสัญญาต้องส่งอมอบรถภายใน 180 วัน โดยจะมีการทยอยส่งมอบเป็นล็อตๆได้ ซึ่งขณะนี้บริษัทฯได้นำเสนอแผนแล้วเบื้องต้นล็อตแรก 100 คัน ต้องส่งมอบภายใน 3 เดือนหรือ มี.ค.2561  และคาดว่าจะนำมาวิ่งให้บริการประชาชนได้ทันช่วงเดือน พ.ค.2561 ส่วนกรณีส่งมอบรถนั้น บริษัทจะนำเข้าทั้งคัน และต้องเสียภาษี 40% ในการนำเข้าหรือใม ในส่วนนี้ บริษัทได้นำรถบางส่วนมาประกอบที่ไทย เช่น นำเข้ารถเปล่า แล้วมาติดแอร์ที่ไทย ซึ่งทำให้บางส่วนไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า

ส่วนความคืบหน้าหลังได้เริ่มทดลองใช้งานเครื่องเก็บค่าโดยสารหยอดเหรียญ (Cash box) บนรถโดยสาร ขสมก.แต่พบปัญหาไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการแก้ไขของทางบริษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) ที่ปัจจุบันมีการติดตั้งไปแล้วบางส่วนแต่ยังไม่ได้มีการส่งมอบให้ทาง ขสมก. ส่วนการชะลอการติดตั้งในเบื้องต้นจะดำเนินการติดตั้งไม่เกิน 800 คัน ซึ่งไม่ได้นำไปสู่การยกเลิกการรับมอบแต่อาจจะมีการพิจารณาการปรับลดเพราะสัญญาเป็นสัญญาเช่าและก็จ่ายค่าเช่าเฉพาะที่ใช้จริง อย่างไรก็ตามในส่วนนี้ได้มีการหารือและแจ้งด้วยวาจากับทางบริษัทฯแล้ว โดยในส่วนของระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินตรวจสอบแต่งวดการส่งมอบจะมีการส่งมอบพร้อมกันทั้ง E-Ticket และ Cashbox

สำหรับนโยบายของทางกระทรวงที่อยากจะให้มีการใช้ Sandbox หรือการทำ QR Code เข้ามาเป็นช่องทางเสริมนอกเหนือจากการใช้ Cashbox และ E-Ticket ก็มองว่าในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ควรจะมีการทดสอบในพื้นที่เล็กๆก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าได้ผลแล้วค่อยมีการขยายผลทั้ง E-Ticket และ Cashbox ถือว่าเป็นบทเรียนที่ดีว่าควรจะมีการทดสอบก่อนสัก 1-2 สาย เพื่อดูให้ระบบนิ่งก่อนที่จะมีการขยายผลในการนำมาใช้งาน ซึ่งในอนาคตมีแผนตั้งเป้าที่จะไม่รับการชำระค่าโดยสารเป็นเงินสดเลย

ด้านนายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่าในส่วนแผนการซ่อมบำรุง 10 ปี ซึ่งแผนนั้นต้อวหารือรายละเอียดอีกครั้ง โดย ขสมสก. จัดพื้นที่แต่ละอู่รถเมล์ที่นำรถในเส้นทางมาวิ่งให้บริการ โดยเอกชนต้องลงทุนวางระบบ ส่วน ขสมก. เก็บค่าเช่าพื้นที่ ซึ่ง ขสมก. มองแล้วน่าจะมีศักยภาพในส่วนนี้ เพราะบริษัทที่ชนะประมูลได้มีการประกอบกิจการรถหัวลาก รถต่างๆ จำนวนมาก และดูโรงงานที่จังหวัดขอนแก่นด้วย

ภาพประกอบข่าว