posttoday

ขนส่งฯเปิด2เส้นทางรถเมล์ใหม่ต้นม.ค.นี้

12 ธันวาคม 2560

ขนส่งนำร่องเปิด 2 เส้นทางรถเมล์ใหม่ต้นม.ค.นี้ พร้อมชะลอเปิดบริการ Taxi OK หลังยอดยังไม่เข้าเป้า

ขนส่งนำร่องเปิด 2 เส้นทางรถเมล์ใหม่ต้นม.ค.นี้ พร้อมชะลอเปิดบริการ Taxi OK หลังยอดยังไม่เข้าเป้า 

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.)เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการปฏิรูปเส้นทางรถโดยสาร 269 เส้นทางนั้นขบ.เตรียมเปิดให้บริการเส้นทางนำร่อง 2 เส้นทางใหม่ที่ได้ตัวผู้ประกอบการมาบริหารเส้นทางแล้วได้แก่ สายที่R26E สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์-โรงพยาบาลรามาธิบดี (ทางด่วน) ระยะทาง 61 กิโลเมตร และ สายที่ Y70E มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศาลายา-สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต (ทางด่วน) ระยะทาง 40 กิโลเมตร คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนได้ในช่วงต้นเดือนม.ค.นี้

หลังจากนั้นจะประเมินศักยภาพเส้นทางใหม่ก่อนรวบรวมข้อมูลเพื่อสรุปเส้นทางนำร่องที่จะเปิดประมูลต่อไปอีก 8 เส้นทางในปีหน้า ส่วนจะเป็นเส้นทางไหนนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมเพื่อไม่ให้ทับซ้อนเส้นทางกับผู้ประกอบการายเดิม

อย่างไรก็ตามขณะนี้ขบ.กำลังอยู่ระหว่างเสนอไปยังรัฐบาลเพื่อขอออกกฎหมายพิเศษเพื่อให้อำนาจขบ.ในการออกใบรับรองเดินรถชั่วคราวระยะเวลา 2 ปีในช่วงเปลี่ยนผ่านการปฏิรูปเส้นทาง ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมคาดว่าจะสามารถเสนอกระทรวงคมนาคมได้ในช่วงต้นเดือนม.ค.ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับการเปิดตัวเส้นทางนำร่องใหม่ 2 เส้นทางเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ทุกฝ่ายได้รับทราบต่อไป โดย ขบ.จะออกใบอนุญาต 2 ปีให้กับผู้ประกอบการที่อายุใบอนุญาตเหลืออยู่ 2 ปีหรือมากกว่า 2 ปี ขณะที่ผู้เหลือใบอนุญาตน้อยกว่า 2 ปี จะออกใบอนุญาต 1 ปีให้การออกใบอนุญาตชั่วคราวนั้นเป็นการการันตีว่าในช่วงเปลี่ยนผ่าน 2 ปีนั้นจะไม่ส่งผลกระทบกับประชาชนในการเดินทาง เพื่อยืนยันว่าทุกเช้าประชาชนต้องมีรถเมล์โดยสารคอยบริการเหมือนเดิมตลอดช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านนี้

นายสนิท กล่าวอีกว่า ความคืบหน้าโครงการ Taxi OK เพื่อยกระดับมาตรฐานตัวรถและงานบริการของแท็กซี่นั้น คาดว่าจะเริ่มเปิดตัวให้บริการ Taxi OK และ Taxi VIP ได้ในช่วงต้นเดือนม.ค. เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน ปัจจุบันขบ.ได้จัดทำแอพพลิเคชั่นและระบบการใช้งานดิจิทัลไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้เนื่องจากต้องการปริมาณแท็กซี่ที่เข้าร่วมให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ เพื่อไม่ให้ประชาชนสับสน โดยตั้งเป้าหมายให้มีแท็กซี่เข้าร่วม 10,000 คันก่อนเปิดให้บริการ แต่ขณะนี้พบว่ามีผู้ประกอบการแท็กซี่ภาคสมัครใจเข้ามายื่นขอแล้วจำนวน 2,000-3,000 ราย ขณะที่แท็กซี่ภาคบังคับเข้ามายื่นความจำนงเพียง 1,000 คันทั้งๆที่มีรถแท็กซี่ที่จะหมดอายุใบอนุญาตในปีนี้หลายหมื่นคัน ดังนั้นจึงต้องรอให้ได้ยอดครบตามเป้าก่อนถึงเปิดบริการได้

สำหรับประเด็นที่ผู้ประกอบการแท็กซี่ร้องเรียนว่าค่าติดตั้งและบำรุงอุปกรณ์ส่วนควบตามกำหนดมาตรฐานใหม่ของขบ.นั้นมีราคาสูงเกินกว่าที่จะจ่ายไหวนั้น นายสนิทกล่าวว่าการปฏิรูปแท็กซี่เพื่อไปสู่ระบบใหม่ให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยนั้นในช่วงแรก ขบ.ยืนยันว่าจะคงอัตราให้บริการในราคาเดิมคือค่าแรกเข้าที่ 35 บาท ควบคู่ไปกับการศึกษาโครงสร้างราคาแท็กซี่ในอนาคตที่ต้องปรับให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริงมากขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาคาดว่าในปีหน้าจะเห็นความชัดเจนด้านราคามากขึ้น

นายสนิทกล่าวต่อว่าส่วนด้านประเด็นการจัดการกับรถร่วมเอกชนให้บริการ(รถร่วมฯ)นั้น เบื้องต้นขบ.จะให้ใบอนุญาตจำนวน 2 ปีไปก่อน หากพบว่าผู้ประกอบการมีศักยภาพเพียงพอและปรับปรุงคุณภาพตัวรถและบริการตามหลักของขบ.ก็มีความเป็นไปได้ที่จะต่ออายุเป็น 7 ปีให้ ส่วนรถร่วมฯที่มีอายุสัมปทานกับขสมก.เกิน 3 ปีนั้น ขบ.จะพิจาณาช่วยเหลือโดยดูเส้นทางที่เหมาะสมหรือดูเส้นทางใกล้เคียงให้ แต่ทั้งนี้เส้นทางเดิมที่มีปัญหาการแย่งลูกค้าอาทิ เส้นทางเดียวแต่มีผู้ประกอบการห้ารายนั้น ขบ.จะดำเนินการลดตัวผู้ประกอบการลงให้เหลือ 2-3 รายเพื่อป้องกันปัญหาเดิมไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคต