posttoday

รมว.เกษตรฯเตรียมถกพาณิชย์ผลักดันสินค้าเกษตรฯ

05 ธันวาคม 2560

รมว.เกษตรฯมอบนโยบาย 3 ต. "ต่อ - เติม - แต่ง" ให้ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมถกพาณิชย์ผลักดันสินค้า

รมว.เกษตรฯมอบนโยบาย 3 ต.  "ต่อ - เติม - แต่ง" ให้ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมถกพาณิชย์ผลักดันสินค้า

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายให้ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้ง 2 คน รับผิดชอบคนละ 2 กลุ่มภารกิจ โดยนายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีประสบการณ์ด้านการจัดหาเงินทุน จะดูแลเรื่องการวางแผนผลผลิตทางการเกษตร และเรื่องส่งเสริมช่องทางการตลาด ส่วนนายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีประสบการณ์ด้านการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ ทฤษฎีใหม่ จะดูแลเรื่องขั้นตอนการผลิตสินค้าการเกษตร การน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 มาส่งเสริมให้เกษตรกรน้อมนำเป็นหลักในการประกอบอาชีพและดำเนินชีวิต

นายกฤษฎา กล่าวต่อไปว่า การขับเคลื่อนงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะต้องบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่เกษตรกรอย่างแท้จริง ดังนั้น ทุกโครงการที่ดำเนินการจะต้องสามารถจับต้องได้ จึงได้มอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ นำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน เรียกว่า “นโยบาย 3 ต.” ได้แก่ ต่อ - เติม - แต่ง โดย “ต่อ” คือ การสานต่อนโยบายเดิมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ดีอยู่แล้ว ให้มีการขยายผลต่อเนื่อง “เติม” คือ การเพิ่มรายละเอียดให้โครงการเดิมที่ยังไม่สมบูรณ์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เช่น การเพิ่มจำนวนคน และเพิ่มงบประมาณ เป็นต้น และ “แต่ง” คือ การปรับปรุง เปลี่ยนแปลงในโครงการเดิมที่ไปต่อไม่ได้ หรือควรจะปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความเหมาะสมมากขึ้น

ทั้งนี้ ในการดำเนินงานจะผนึกกำลังในระดับจังหวัด โดยส่งเสริมการปฏิบัติงานของข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ ในระดับพื้นที่ ทั้งในระดับอำเภอ และจังหวัด โดยปรับโครงสร้างการทำงานให้สามารถบูรณาการทำงานร่วมกันได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ได้มอบนโยบายการทำงานให้แก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรฯ โดยให้ลดขั้นตอนการปฏิบัติทางราชการลง เพื่อให้การทำงานเกิดความคล่องตัวและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเน้นเรื่องผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ สำหรับเป้าหมายการทำงานในช่วงระยะ 3 เดือนแรก จะดำเนินการใน 2 เรื่องสำคัญ คือ 1.มาตรการใดที่กระทรวงเกษตรฯ ดำเนินการดูแลช่วยเหลือเกษตรกรทุกกลุ่มแล้วได้ผล ก็จะขยายผลต่อเนื่องให้เพิ่มมากขึ้น และ 2. จะพิจารณาดูว่ามาตรการใดที่ยังมีจุดอ่อนก็จะเร่งปรับปรุงแก้ไข ทั้งนี้ ได้หารือร่วมกับปลัดกระทรวงเกษตรฯ และอธิบดีของทุกกรม เพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินงานในระยะ 3 เดือนแรก เกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ที่มีอยู่แล้วให้เห็นผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ จะไม่นำยางพาราที่อยู่ในสต๊อกออกมาขายในตลาด แต่จะผลักดันนโยบายที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ส่วนราชการต่างๆ ใช้ยางพาราในโครงการต่าง ๆให้เห็นผลเป็นรูปธรรม หากพบข้อติดขัดในการดำเนินการ จะประสานงานกับกระทรวงต่างๆ ให้การดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าวชัดเจนยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ จะส่งเสริมให้สหกรณ์การเกษตรและวิสาหกิจชุมชนมีความเข้มแข็ง เนื่องจากสหกรณ์ถือว่าเป็นองค์กรหลักของเกษตรกรและประชาชน ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรวบรวมผลผลิตจากเกษตรกรมาขายได้ ทำให้เกษตรกรอยู่ได้

"เป้าหมายหลักในการเข้ามาทำงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คือ การดูแลเกษตรกรให้มีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การทำงานจะคำนึงถึงประโยชน์ของเกษตรกรเป็นหลัก เมื่อราชการไปแนะนำให้เกษตรกรปลูกหรือทำอะไรแล้ว พืชที่ไปแนะนำให้เกษตรปลูกต้องขายได้ มีคนซื้อ มีตลาดรองรับ เกษตรกรต้องมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าราคาที่ขายออกสู่ตลาด ทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกษตรกรขาดทุนและไม่เดือดร้อน"นายกฤษฎา กล่าว

ทั้งนี้ ในวันศุกร์ที่ 8 ธ.ค. 60 เวลา 09.00 น. จะมีการประชุมร่วมกันระหว่าง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เป็นประธาน เพื่อบูรณาการทำงานร่วมกันทั้งด้านการผลิตและการตลาดของสินค้าเกษตรให้เกิดประสิทธิภาพ ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์