ครม.ไฟเขียวออกมาตรการอุ้มชายแดนใต้

ครม.ไฟเขียวต่อ อายุมาตรการการเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี  ได้เห็นชอบมาตรการด้านการเงินสำหรับเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ 1.โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการ 2.5 หมื่นล้านบาท นับแต่ดำเนินโครงการจนถึงวันที่ 9 พ.ย. 2560 ได้มีผู้ประกอบการใช้สินเชื่อ 3,748 ราย วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 70.92% ของวงเงินทั้งหมด ซึ่งโครงการนี้จะสิ้นสุดในสิ้นปี 2560 นี้ แต่ยังมีวงเงินเหลืออยู่ 7,271 ล้านบาท ครม.จึงอนุมัติให้ขยาย ระยะเวลาโครงการออกไปอีก 3 ปี คือ 2561 ถึงสิ้นปี 2563 โดยธนาคารออมสินจะให้สินเชื่อแก่ธนาคารพาณิชย์โดยคิดดอกเบี้ยที่ 0.01% ส่วนสถาบันการเงินอื่นคิดดอกเบี้ยจากผู้ประกอบการ 3.5% โดยรัฐบาลชดเชยส่วนต่างระหว่างต้นทุนเงินกับผลตอบแทนให้ธนาคารออมสินที่ 2.27%

โครงการที่ 2 ต่ออายุโครงการพักชำระหนี้ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ออกไปสิ้นสุดในปี 2563 วงเงินการพักหนี้ 2 แสนบาท คาดว่ามีผู้จะเข้าร่วมโครงการ 4.8 หมื่นราย คิดเป็นเงินต้น 4,080 ล้านบาท รัฐบาลชดเชยปีละไม่เกิน 224.4 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 673.20 ล้านบาท และขยายระยะเวลาโครงการการช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยจากภัยก่อการร้ายในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ 5 จังหวัดชายแดนใต้ไปเป็นสิ้นสุดปี 2563

นอกจากนี้ ได้อนุมัติโครงการสินเชื่อฉุกเฉินเพื่อมุสลิมของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย วงเงินกู้ ไม่เกิน 5 หมื่นบาท/ราย ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 5 ปี อัตรากำไรไม่เกิน 0.8% ต่อเดือน

ในขณะเดียวกันธนาคาร อาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ วงเงิน 5,000 ล้านบาท คิดดอกเบี้ย 3.75% คงที่ 3 ปีแรก และสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการ แห่งรัฐ วงเงิน 1,000 ล้านบาท คิดดอกเบี้ย 3.25% ในช่วง 5 ปีแรก และสินเชื่อบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก 1,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2.99% ใน 2 ปีแรก